สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ว่า ได้เคลื่อนย้ายระบบขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์อิสกันเดอร์ ซึ่งมีพิสัยทำการครอบคลุมรัศมี 500-700 กิโลเมตร ไปติดตั้งยังเขตการปกครองคาลินินกราด ซึ่งอยู่ริมชายฝั่งทะเลบอลติกติดกับโปแลนด์ทางทิศใต้ และลิทัวเนียทางทิศเหนือ โดยระบุว่าเป็นกิจกรรมทางทหารตามปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การฝึกซ้อม เพื่อเตรียมความพร้อมของกองทัพ
ขณะที่ พล.ต.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมอสโกต้องการประจำการระบบอิสกันเดอร์ในพื้นที่เปิดและโล่งแจ้ง เพื่อประเมินความเคลื่อนไหวของดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติการอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ด้านนายลินัส ลิงเควิเชียส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนีย กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเข้าข่ายเป็นพฤติการณ์ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์สากล อีกทั้งรัศมีทำการของระบบอิสกันเดอร์ครอบคลุมถึงกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี พร้อมทั้งเชื่อว่าจุดประสงค์ของรัสเซีย คือการเพิ่มแรงกดดันให้แก่ตะวันตก ส่วนกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์เผยกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์เกิดขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียทวีความตึงเครียดอย่างหนัก และชัดเจนมากยิ่งขึ้นในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่รัฐบาลวอชิงตันระงับเจรจาเรื่องซีเรียกับรัฐบาลมอสโก และกล่าวหาอีกฝ่ายโจมตีทางไซเบอร์เพื่อก่อกวนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ด้านรัสเซียระงับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์กับสหรัฐ และประกาศเตรียมกลับไปตั้งฐานทัพในคิวบา หนึ่งในสมรภูมิร้อนสมัยสงครามเย็น
ขณะที่ พล.ต.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมอสโกต้องการประจำการระบบอิสกันเดอร์ในพื้นที่เปิดและโล่งแจ้ง เพื่อประเมินความเคลื่อนไหวของดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติการอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ด้านนายลินัส ลิงเควิเชียส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนีย กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเข้าข่ายเป็นพฤติการณ์ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์สากล อีกทั้งรัศมีทำการของระบบอิสกันเดอร์ครอบคลุมถึงกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี พร้อมทั้งเชื่อว่าจุดประสงค์ของรัสเซีย คือการเพิ่มแรงกดดันให้แก่ตะวันตก ส่วนกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์เผยกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ทั้งนี้ สถานการณ์เกิดขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียทวีความตึงเครียดอย่างหนัก และชัดเจนมากยิ่งขึ้นในรอบ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่รัฐบาลวอชิงตันระงับเจรจาเรื่องซีเรียกับรัฐบาลมอสโก และกล่าวหาอีกฝ่ายโจมตีทางไซเบอร์เพื่อก่อกวนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ด้านรัสเซียระงับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์กับสหรัฐ และประกาศเตรียมกลับไปตั้งฐานทัพในคิวบา หนึ่งในสมรภูมิร้อนสมัยสงครามเย็น
