รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวเตือนเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) ว่า รัสเซียอาจส่งทหารเข้าประชิดพรมแดนฟินแลนด์ หากรัฐบาลเฮลซิงกิตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมหามาตรการป้องกันความขัดแย้งในทะเลบอลติก
หลังเข้าพบกับประธานาธิบดี เซาลิ นีนิสโต ที่เมืองนานทาลี (Naantali) ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฟินแลนด์ ปูติน ได้กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าวกองทัพฟินแลนด์ “จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทางทหารของนาโต ซึ่งจะเข้ามาประชิดพรมแดนของสหพันธรัฐรัสเซียได้ในชั่วข้ามคืน”
“คุณคิดว่าเราจะปล่อยให้กองกำลังรัสเซียรักษาระยะห่าง 1,500 กิโลเมตร จากเส้นพรมแดนเหมือนเดิมอย่างนั้นหรือ?”
ผู้นำรัสเซียได้เดินทางเยือนฟินแลนด์เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ยูเครนขึ้น เมื่อปี 2014 หลังจากเฮลซิงกิซึ่งแสดงจุดยืนเป็นกลางทางทหารมาโดยตลอด เริ่มส่งสัญญาณเอนเอียงไปทางนาโตมากขึ้น
การเยือนของ ปูติน ยังสอดคล้องกับห้วงเวลาที่นาโตและรัสเซียยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารในแถบทะเลบอลติก และก่อนที่การประชุมซัมมิตนาโตจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงวอร์ซอของโปแลนด์เพียง 1 สัปดาห์
“นาโตอาจจะเต็มใจสู้รบกับรัสเซีย จนกว่าทหารโปแลนด์จะเหลือเพียงคนสุดท้าย” ปูติน กล่าวเตือน
“พวกคุณต้องการแบบนั้นหรือ? ฝ่ายเราไม่ต้องการ... ไม่เคยต้องการแบบนั้นเลย แต่นี่คือสิ่งที่พวกคุณกำลังเรียกร้อง”
อดีตรัฐโซเวียตแถบบอลติกเรียกร้องให้นาโตช่วยเข้ามาเสริมกำลังป้องกันภัยทางอากาศ หลังเกิดเหตุอากาศยานของรัสเซียและชาติตะวันตกบินเฉียดกันในระยะอันตรายเหนือทะเลบอลติกหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
ปูติน และ นีนิสโต เสนอให้มีมาตรการยกระดับความปลอดภัย โดยผู้นำฟินแลนด์เรียกร้องว่าอากาศยานทางทหารที่บินผ่านเหนือทะเลบอลติกจะต้องเปิดอุปกรณ์รับสัญญาณเพื่อระบุตัวตนตลอดเวลา
“เราทุกคนรู้ดีว่าการบินเช่นนี้มีความเสี่ยง และผมเสนอว่าเราควรจะตกลงให้เครื่องบินทุกลำที่จะผ่านเหนือทะเลบอลติกต้องเปิด transponder เอาไว้ตลอดเวลา” นีนิสโต กล่าว
ปูติน ยอมรับว่า เครื่องบินของรัสเซียปิดอุปกรณ์ transponder บ้างในบางครั้ง แต่ทว่าอากาศยานของนาโตทำเช่นนั้นบ่อยกว่า
การประชุมระหว่างนาโตและรัสเซีย ซึ่งจะจัดขึ้นหลังซัมมิตนาโต จะเป็นเวทีให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมพูดคุยเพื่อเพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจ และป้องกันการกระทบกระทั่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต