เอเอฟพี - อัยการเกาหลีใต้จับกุมอดีตผู้ช่วยระดับสูงของประธานาธิบดี พัค กึน-ฮเย อีกสองคนในวันอาทิตย์ (6) ขณะที่ประชาชนนับหมื่นออกไปชุมนุมขับไล่ผู้นำตามท้องถนน ตอกย้ำถึงเรื่องอื้อฉาวที่ผู้นำเกาหลีใต้ปล่อยให้เพื่อนสนิทชักใยการบริหารประเทศกำลังขยายวงรุนแรงขึ้นทุกขณะ
คะแนนนิยมของพัคลดฮวบอยู่ที่ 5% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับประธานาธิบดีขณะดำรงตำแหน่ง กรณีอื้อฉาวจากเพื่อนสนิท “ชอย ซุน-ซิล” ที่ถูกจับข้อหาฉ้อโกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งยังถูกกล่าวหาว่า แทรกแซงกิจการรัฐ ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งต่างๆ และการตัดสินใจด้านนโยบายของรัฐบาล ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด
สำนักข่าวยอนฮัป รายงานว่า อาห์น จอง-เบียม อดีตที่ปรึกษาอาวุโสของพัค ถูกจับกุมอย่างเป็นทางการเมื่อเช้าวันอาทิตย์ในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและพยายามบีบบังคับขู่เข็ญ เจ้าหน้าที่สงสัยว่าเขาช่วยเหลือชอยฮุบเงินบริจาคหลายร้อยล้านดอลลาร์จากกลุ่มกิจการยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง ที่ให้กับมูลนิธิไม่หวังผลกำไรต้องสงสัยที่ชอยตั้งขึ้น และนำเงินไปใช้ส่วนตัว อาห์น ที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันพุธ (2) หลังจากลาออกจากตำแหน่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว กล่าวว่า จะรับผิดชอบที่ไม่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมแก่ประธานาธิบดี
อัยการยังจับกุม จอง โฮ-ซอง อดีตผู้ช่วยประธานาธิบดีอีกคน จากข้อกล่าวหาแพร่งพรายข้อมูลที่เป็นความลับของทางการ ทั้งนี้ จอง ในวัย 47 ปี ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นมือขวาและทำงานให้พัคมาตั้งแต่ปี 1998 ถูกสงสัยว่า ส่งคำปราศรัยและเอกสารราชการของประธานาธิบดีให้ชอย
พัคพยายามอย่างหนักในการฟื้นความเชื่อมั่นต่อคณะบริหารของตนเอง ขณะที่วิกฤตนี้ทวีความรุนแรงขึ้น ด้วยการปรับคณะรัฐมนตรีและเปลี่ยนที่ปรึกษาอาวุโส เพื่อนำคนจากนอกพรรคอนุรักษนิยมของตนคือ พรรคเซนูรี มาร่วมทำงาน ทว่า การดำเนินการดังกล่าวแทบไม่ได้บรรเทาความโกรธแค้นของประชาชนลงเลย โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5) ตำรวจคาดว่า มีผู้ประท้วงประมาณ 50,000 คน ชุมนุมเรียกร้องให้พัคลาออก เป็นจำนวนเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้ากว่าสองเท่า ขณะที่ผู้จัดการชุมนุมระบุว่า มีผู้ร่วมประท้วงเกือบ 200,000 คน
ฮัน กวาง-อ็อก ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะทำงานคนใหม่ของพัคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวเมื่อวันเสาร์ ว่า การประท้วงสะท้อนความรุนแรงของสถานการณ์ปัจจุบัน เขายังกล่าวระหว่างการประชุมคณะเลขานุการประธานาธิบดีเมื่อวันอาทิตย์ ว่า เลขานุการอาวุโสต้องให้ความร่วมมือในการเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด
ในการปราศรัยทางทีวีเมื่อวันศุกร์ (4) พัค เผยว่า ตนตกลงไปให้ปากคำกับอัยการ และพยายามสร้างภาพตัวเอง ว่า ไว้ใจเพื่อนมากเกินไป พัคยังกล่าวด้วยเสียงสั่นเทา ว่า เธอใช้ชีวิตในฐานะประธานาธิบดีอย่างเงียบเหงา จึงหันไปสนิทสนมและขอความช่วยเหลือจากชอย
ขณะเดียวกัน สื่อเกาหลีใต้สร้างภาพลักษณ์ของชอย ว่า มีพฤติกรรมเช่นเดียวกับรัสปูติน คือ ครอบงำและชักใยประธานาธิบดีที่อ่อนแอ
ชอยเป็นบุตรสาวของ ชอย แต-มิน ที่แต่งงานถึง 6 ครั้ง มีชื่อปลอมมากมาย และตั้งลัทธิของตนเองชื่อว่า เชิร์ช ออฟ อิเทอร์นัล ไลฟ์ รวมทั้งยังเป็นผู้ให้คำปรึกษาสำคัญของพัค ทั้งนี้ พัคถูกบังคับให้ปฏิเสธว่า เป็นสาวกลัทธิดังกล่าว หรืออนุญาตให้หมอผีทำพิธีในบลูเฮาส์ หรือทำเนียบประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม แม้คนมากมายออกมาชุมนุมประท้วง แต่คาดกันว่า พัคจะไม่ยอมลาออกขณะที่เหลือเวลาในตำแหน่งอีกเพียงปีกว่าเท่านั้น โดยรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้อนุญาตให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียว
เรื่องอื้อฉาวส่วนตัวครั้งนี้ บ่อนทำลายความสามารถในการบริหารประเทศของพัคอย่างร้ายแรง และทำให้เธอกลายเป็นผู้นำเป็ดง่อยที่สุดในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจชะงักงัน อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น และสถานการณ์การเผชิญหน้าทางทหารกับเกาหลีเหนือตึงเครียดยิ่งขึ้น