“ประวุฒิ” โฆษก ตร.เผยพนักงานสอบสวนอาจเรียกสอบพยานเพิ่มคดี “เสี่ยชูวงษ์” เสียชีวิต ปัดไม่ทราบมีใครชักใยญาติผู้ตายเคลื่อนไหวเดินสายร้องทุกข์ตามคำให้การของ “บรรยิน” แต่ยืนยันให้ความเป็นธรรม ส่วนลายเซ็นและคลิปเสียงสนทนาโอนหุ้นนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบ บางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ อ้างอยู่ในสำนวนคดี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (30 ก.ค.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร.กล่าวว่า หลังจาก พ.ต.ท.บรรยิน เดินทางเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน บก.ป.ทำให้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งนี้ ในส่วนของ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว และ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล จะมีการเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบสำนวน และคำให้การ รวมถึงอาจจะมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อความชัดเจน เช่นเดียวกับกรณีที่อดีต ส.ส.นครสวรรค์ กล่าวถึงบุคคลที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับกรณีทรัพย์สินของนายชูวงษ์ และเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวร้องทุกข์ของทางญาตินายชูวงษ์ ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบข้อมูล แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ใดที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกก็จะเชิญตัวมาสอบปากคำทั้งหมด
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวถึงกรณีคลิปเสียงสนทนาของนายชูวงษ์กับโบรกเกอร์สาว เรื่องการโอนหุ้นว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบ เพราะต้องหาเครื่องมือที่ทันสมัย เนื่องจากเครื่องมือปัจจุบันที่มีอยู่ไม่สามารถยืนยันเส้นเสียงของบุคคลในคลิปว่าเป็นการปลอมเสียงขึ้นมาหรือไม่ รวมทั้งไม่สามารถยืนยันในชั้นศาลได้ แต่คงใช้ในประกอบสำนวนคดีเท่านั้น
อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีลายเซ็นของนายชูวงษ์นั้น เบื้องต้นทางกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ส่งผลตรวจลายเซ็นชุดแรกมาแล้ว ซึ่งเป็นผลตรวจลายเซ็นของนายชูวงษ์ที่ทำธุรกรรมกับบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนคดี
นอกจากนี้ ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งเอกสารลายเซ็นการทำธุรกรรมชุดที่ 2 ซึ่งนายชูวงษ์ได้ทำธุรกรรมกับบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ให้กับทาง พฐ.เพื่อตรวจสอบหาความชัดเจนต่อไป โดยในวันที่ 1 สิงหาคมนี้จะมีการเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปความคืบหน้าอีกครั้งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขณะเดียวกัน ทาง พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป.ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ เพื่อประมวลข้อมูลคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยินอีกครั้ง ก่อนจะมีการพิจารณาว่ายังมีประเด็นใดที่ยังต้องแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า การสอบปากคำ พ.ต.ท.บรรยินนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และคดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยประเด็นที่พนักงานสอบสวนได้สอบถามจาก พ.ต.ท.บรรยินนั้นมีการสอบถามทั้งกรณีการโอนหุ้น เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท.บรรยิน นายชูวงษ์ ที่มีต่อ น.ส.กัญฐณา และ น.ส.อุรชา ทาง พ.ต.ท.บรรยิน สามารถตอบข้อซักถามของพนักงานสอบสวนได้ในทุกประเด็น รวมทั้งให้ข้อมูลในบางเรื่องที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบถาม เนื่องจากรู้แนวทางและการดำเนินการของพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว เพราะ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นนายตำรวจและเคยปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนมาก่อน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.จะพิจารณาในประเด็นต่างๆ ที่ยังไม่ได้ซักถามจาก พ.ต.ท.บรรยินจึงเตรียมจะพิจารณาเชิญตัว พ.ต.ท.บรรยิน มาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ยังไม่กำหนดวัน เวลา ในการนัดหมาย ส่วนกรณีที่ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ กล่าวถึงบุคคลที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับกรณีทรัพย์สินของนายชูวงษ์ และเป็นผู้บงการเกม หรือชักใยอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวร้องทุกข์ของทางญาตินายชูวงษ์ในครั้งนี้นั้น ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ทราบข้อมูล แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ใดที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกก็จะพิจารณาเชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป และขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีลายเซ็นของนายชูวงษ์ส่งไปตรวจสอบยังกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ทั้งหมดแล้ว และมีการส่งผลตรวจกลับมาให้โดยมีการรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ขณะเดียวกัน ในส่วนของคลิปเสียงนายชูวงษ์ก็มีการนำส่งไปยัง พฐ.เพื่อขอให้มีการตรวจสอบเช่นเดียวกันแม้ว่าอาจจะไม่ได้ถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าจะต้องดำเนินการในทุกขั้นตอนอย่างละเอียดรอบคอบที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดข้อติดใจสงสัยใดๆ และสามารถตอบคำถามได้ในทุกประเด็น ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ ให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาออกหมายจับผู้ใด เพราะยังเร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่ามีผู้กระทำความผิดจากกรณีที่มีการร้องทุกข์ของญาตินายชูวงษ์ในประเด็นการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 280 ล้านบาท ไปให้กับ น.ส.กัญฐณา และ น.ส.อุรชา โดยยังคงต้องใช้เวลาในการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ อีกระยะหนึ่ง