รอยเตอร์ - ผู้นำกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการรัฐสภาวันนี้ (6 ธ.ค.) โดยยืนยันว่าไม่เคยเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นจากรัฐบาลในการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิ 2 แห่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของคดีทุจริตที่ทำให้ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย เสี่ยงหลุดจากเก้าอี้อยู่ในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม ประธานกลุ่มบริษัท เอสจี กรุ๊ป ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ถูกเรียกเข้าให้ปากคำโดยมีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อโทรทัศน์ ยอมรับว่าพวกเขารู้สึก “ลำบากใจ” ที่จะปฏิเสธคำขอของรัฐบาล
“มันเป็นความจริงในเกาหลีใต้ที่ว่า เมื่อรัฐบาลเรียกร้องมา บริษัทต่างๆ ก็ยากที่จะปฏิเสธได้” ฮูห์ ชาง-ซู ผู้นำกลุ่ม เอสจี กรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภทตั้งแต่พลังงานไปจนถึงค้าปลีก และยังเป็นประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมแห่งเกาหลี ระบุ
ผู้นำกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ หรือ “แชโบล” ซึ่งมีรายได้รวมกันกว่าครึ่งของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ถูกเรียกตัวไปเค้นสอบว่าพวกเขาเคยถูกประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย หรือ ชอย ซุน-ซิล เพื่อนสนิทของเธอ บีบบังคับให้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่ง เพื่อแลกกับการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจหรือไม่
ลี แจ-ยอง (เจย์ วาย ลี) ประธานกลุ่มบริษัท ซัมซุง กรุ๊ป ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางโต๊ะพยาน ระบุว่า ตนเคยหารือกับประธานาธิบดี พัค แบบตัวต่อตัว และ พัค ได้ขอให้ ซัมซุง ช่วยสนับสนุนโครงการพัฒนาด้านวัฒนธรรมและกีฬา แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องขอเงินตรงๆ
“ที่ผ่านมาเราเคยได้รับคำขอสนับสนุนจากหลายภาคส่วน เช่น วัฒนธรรมและกีฬา เป็นต้น แต่เราไม่ได้ให้ความช่วยเหลือโดยต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน กรณีนี้ก็เหมือนกัน”
ลี ระบุว่า คดีอื้อฉาวนี้ทำให้ตนรู้สึกอับอาย และเดินทางมาให้ปากคำที่รัฐสภาด้วย “หัวใจอันหนักอึ้ง”
ซัมซุง บริจาคเงินให้แก่มูลนิธิทั้งสองราว 20,400 ล้านวอน ซึ่งมากกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ และเมื่อเดือนที่แล้วสำนักงานใหญ่ของ ซัมซุง ก็ถูกอัยการเข้าตรวจค้น
“ผมยินดีจะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะในทางกฎหมายหรือจริยธรรม” ลี วัย 48 ปี ผู้นำรุ่นที่ 3 ของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดของเกาหลีใต้ ระบุ
แชโบลเหล่านี้มีอิทธิพลครอบงำเศรษฐกิจเกาหลีใต้มานาน และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพลิกฟื้นเกาหลีใต้ที่บอบช้ำจากสงครามในช่วงปี 1950-53 จนกลายมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับที่ 4 ของเอเชีย
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ชี้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการปฏิรูปแชโบลเหล่านี้ให้มีหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใสมากขึ้น
กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั้ง 9 ซึ่งเป็นหนึ่งใน 53 กลุ่มที่เคยบริจาคเงินให้แก่มูลนิธิของ ชอย ซุน-ซิล ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาใดๆ ในคดีนี้ แต่ผู้ประท้วงที่มารวมตัวกันด้านนอกอาคารรัฐสภาก็ยังถือป้ายเรียกร้องให้ “จับกุมพวกผู้นำแชโบล”
พรรคฝ่ายค้านได้เสนอญัตติถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะมีการโหวตในรัฐสภาวันศุกร์นี้ (9) และไม่ว่าญัตติถอดถอนจะผ่านหรือไม่ พัค กึน-ฮเย ก็จะเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของเกาหลีใต้ที่ต้องพ้นตำแหน่งก่อนหมดวาระ 5 ปี
ชาวเกาหลีใต้นับแสนๆ คนได้ออกมาชุมนุมขับไล่ พัค ต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์แล้ว ขณะที่ผลสำรวจพบว่าคะแนนนิยมของประธานาธิบดีหญิงร่วงดิ่งเหวลงมาเหลือแค่ 4%
สัปดาห์ที่แล้ว พัค ได้ร้องขอให้รัฐสภาช่วยหาทางออกและให้เวลาแก่เธอในการสละตำแหน่งเอง ซึ่งเป็นข้อเสนอที่พรรคฝ่ายค้าน เดโมเครติก ปาร์ตี ระบุว่าเป็นเพียงเทคนิคซื้อเวลา
สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า พัค อาจจะเปิดแถลงข่าวในสัปดาห์นี้เพื่อยื่นข้อเสนอลาออกภายในเดือน เม.ย.ปีหน้า ตามที่พรรครัฐบาลแซนูรีเสนอมา