เอเจนซีส์ / MGR online – องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผย 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเยเมนในเวลานี้ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ขณะที่ดินแดนเศรษฐีน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบีย ยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดใส่ชาติเพื่อนบ้านแห่งนี้ที่ได้ชื่อว่า “ยากจนข้นแค้นที่สุดในโลกอาหรับ” ต่อไป
ด้านสตีเฟน โอ’ไบรอัน รองเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้ประสานงานภารกิจบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็น แถลงในวันจันทร์ (31 ต.ค.) ต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) โดยระบุ ในเวลานี้ ชาวเยเมนราว 21.2 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเยเมนทั้งประเทศ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอย่างเร่งด่วน
รองเลขาธิการสหประชาชาติและผู้ประสานงานภารกิจบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็นระบุด้วยว่า ในจำนวนชาวเยเมน 21.2 ล้านคนดังกล่าวนี้ มีอยู่มากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งรวมถึงเด็กๆ 370,000 คน กำลังทนทุกข์จากภาวะอดอยากขาดแคลนอาหาร ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้ออหิวาตกโรคที่ทำให้มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว 61 ราย กับผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้ออีกเกินกว่า 1,700 ราย
ในอีกด้านหนึ่ง อิสมาอิล อูลด์ ชีคห์ อาเหม็ด นักการทูตอาวุโสชาวมอริตาเนียซึ่งรับหน้าที่เป็นทูตพิเศษด้านเยเมนของสหประชาชาติ ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขามีแผนจะเดินทางกลับไปยังตะวันออกกลางอีกครั้งในเร็ววันนี้ เพื่อผลักดันข้อตกลงสันติภาพเยเมน ให้เป็นรูปเป็นร่างภายในไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ เพื่อปูทางไปสู่การจัดตั้ง “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ” ที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน และนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ในเยเมน
ทั้งนี้ สถานการณ์ในเยเมนได้ถลำเข้าสู่ภาวะไร้ขื่อแปอย่างเต็มรูปแบบนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีอับด์ ราบบูห์ มันซูร์ ฮาดี ที่มีจุดยืนใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบีย ถูกบีบให้ต้องลาออกและลี้ภัยออกนอกประเทศ หลังถูกกลุ่มกบฏฮูตี อันซารุลเลาะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลังรุกไล่อย่างหนัก จนฝ่ายกบฏสามารถบุกเข้ายึดกรุงซานา ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศเอาไว้ได้ เป็นเหตุให้ซาอุดีอาระเบียไม่พอใจและเปิดปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กลุ่มกบฏฮูตี
อย่างไรก็ดี การโจมตีของซาอุฯซึ่งมีทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน กลับล้มเหลวในการขับไล่กลุ่มกบฏที่อิหร่านหนุนหลังกลุ่มนี้ และยังทำให้ซาอุฯ ไม่อาจช่วยนำประธานาธิบดีฮาดีที่เป็นพันธมิตรกับตนกลับเข้าครองอำนาจในเยเมนได้ มิหนำซ้ำ การโจมตีของซาอุดีอาระเบียต่อเยเมน ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนมากกว่า 10,000 ราย