xs
xsm
sm
md
lg

WHO เตือนเยเมนเผชิญวิกฤตอหิวาตกโรค ยอดต้องสงสัยติดเชื้อพุ่งเท่าตัวใน 12 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์
เอเจนซีส์ / MGR online - องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) เตือนภัยการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคในเยเมน หลังจำนวนผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเท่าตัว

คำแถลงในวันจันทร์ (14 พ.ย.) ระบุ ในระยะ 12 วันที่ผ่านมาจำนวนผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออหิวาตกโรคในเยเมนพุ่งสูงขึ้นเท่าตัวจาก 2,070 รายเมื่อวันที่ 1 พ.ย. เป็น 4,119 รายเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 8 ราย และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อใน 11 จังหวัดทั่วเยเมน โดยเฉพาะที่จังหวัดตาอิซซ์ และเอเดน

นอกเหนือจากอหิวาตกโรคที่มีการแพร่กระจายผ่านน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนแล้ว รายงานของ WHO ยังระบุพบผู้เสียชีวิตในเยเมนไปแล้ว 56 ราย จากอาการท้องร่วงขั้นรุนแรง

ก่อนหน้านี้ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยในรายงานอีกฉบับว่า ราว 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเยเมนในเวลานี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ขณะที่ดินแดนเศรษฐีน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบียยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดใส่ชาติเพื่อนบ้านแห่งนี้ที่ได้ชื่อว่า “ยากจนข้นแค้นที่สุดในโลกอาหรับ” ต่อไป

ด้าน สตีเฟน โอ’ไบรอัน รองเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้ประสานงานภารกิจบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็น แถลงเมื่อ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) โดยระบุ ในเวลานี้ชาวเยเมนราว 21.2 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเยเมนทั้งประเทศ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอย่างเร่งด่วน

รองเลขาธิการสหประชาชาติและผู้ประสานงานภารกิจบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็นระบุด้วยว่า ในจำนวนชาวเยเมน 21.2 ล้านคนดังกล่าวนี้ มีอยู่มากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งรวมถึงเด็กๆ 370,000 คนกำลังทนทุกข์จากภาวะอดอยากขาดแคลนอาหาร

ในอีกด้านหนึ่ง อิสมาอิล อูลด์ ชีคห์ อาเหม็ด นักการทูตอาวุโสชาวมอริตาเนียซึ่งรับหน้าที่เป็นทูตพิเศษด้านเยเมนของสหประชาชาติ ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขามีแผนจะเดินทางกลับไปยังตะวันออกกลางอีกครั้งในเร็ววันนี้ เพื่อผลักดันข้อตกลงสันติภาพเยเมนให้เป็นรูปเป็นร่าง เพื่อปูทางไปสู่การตั้ง “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ” ที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่าน และนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ในเยเมน

ทั้งนี้ สถานการณ์ในเยเมนได้ถลำเข้าสู่ภาวะไร้ขื่อแปอย่างเต็มรูปแบบนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี อับด์ ราบบูห์ มันซูร์ ฮาดี ที่มีจุดยืนใกล้ชิดกับซาอุดีอาระเบีย ถูกบีบให้ต้องลาออกและลี้ภัยออกนอกประเทศ หลังถูกกลุ่มกบฏฮูตี อันซารุลเลาะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลังรุกไล่อย่างหนัก จนฝ่ายกบฏสามารถบุกเข้ายึดกรุงซานา ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศเอาไว้ได้ เป็นเหตุให้ซาอุดีอาระเบียไม่พอใจและเปิดปฏิบัติการทางทหารตอบโต้กลุ่มกบฏฮูตี

อย่างไรก็ดี การโจมตีของซาอุฯ ซึ่งมีทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินกลับล้มเหลวในการขับไล่กลุ่มกบฏที่อิหร่านหนุนหลังกลุ่มนี้ และยังทำให้ซาอุฯ ไม่อาจช่วยนำประธานาธิบดีฮาดีที่เป็นพันธมิตรกับตนกลับเข้าครองอำนาจในเยเมนได้ มิหนำซ้ำ การโจมตีของซาอุดีอาระเบียต่อเยเมนยังทำให้มีผู้เสียชีวิตซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนมากกว่า 10,000 ราย
ภาพจากสำนักข่าวเอเอฟพี
ภาพจากสำนักข่าวเอเอฟพี

กำลังโหลดความคิดเห็น