ชาวเยเมนหลายพันประท้วงไม่รับ “แผนสันติภาพยูเอ็น”

เอเอฟพี - ชาวเยเมนหลายพันคนประท้วงต่อต้านแผนการของยูเอ็นที่จะยุติความขัดแย้งนาน 19 เดือน ระหว่างกลุ่มกบฏและรัฐบาล ซึ่งประธานาธิบดีไม่ยอมรับว่าเป็นแผนการเพื่อสันติภาพ

ผู้ประท้วงในเอเดนชุมนุมต่อต้านแผนการดังกล่าวภายหลังเสียงเรียกร้องจากทางการในเมืองทางตอนใต้แห่งนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุ

“เราไม่ยอมรับแผนของ (ทูตพิเศษของยูเอ็น อิสมาอิล) อูดล์ เชคห์ (อาเหม็ด)” หนึ่งในป้ายที่ถือโดยผู้ชุมนุม ระบุ

“ไม่เอาแผนการที่สร้างความชอบธรรมให้รัฐประหาร” อีกป้ายหนึ่งระบุ

เมื่อวันเสาร์ (29) ประธานาธิบดี อะเบดรับบู มันซูร์ ฮาดี ไม่ยอมรับแผนการสันติภาพของทูตรายนี้ โดยระบุว่า มัน “รังแต่จะทำให้เกิดความหายนะและสงครามมากขึ้น”

ฮาดีได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ที่เปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในเดือนมีนาคมปี 2015 หลังจากกลุ่มกบฏเข้าคุกคามการลี้ภัยของเขาในเอเดน บีบให้เขาต้องหลบหนีไปกรุงริยาด

เนื้อหาของโรดแมปซึ่งทูตยูเอ็นเสนอต่อกลุ่มกบฏเมื่อวันอังคาร (1) ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ

แต่แหล่งข่าวระบุว่า มันเรียกร้องให้มีการทำข้อตกลงแต่งตั้งรองประธานาธิบดีคนใหม่ หลังจากกลุ่มกบฏถอนกำลังจากกรุงซานา และเมืองอื่นๆ และส่งมอบอาวุธหนักให้กับบุคคลที่สาม

หลังจากนั้น ฮาดีจะโอนถ่ายอำนาจให้กับรองประธานาธิบดี ซึ่งจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะประกอบด้วยผู้แทนจากภาคเหนือและภาคใต้ของเยเมนในอัตราส่วนที่เท่ากัน

ในวันนี้ (3) ประชาชนหลายร้อยคนเดินขบวนในเมืองมาริบ ทางตะวันออกของกรุงซานา และในจังหวัดฮาดราเมาท์ทางตะวันออกเฉียงใต้ ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุ

ฮาดี กล่าวว่า แผนการใหม่นี้เป็น “การเบี่ยงเบนอย่างชัดเจน” จากมติที่ 2216 ของคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นซึ่งเรียกร้องให้กลุ่มกบฏถอนกำลังออกจากอาณาเขตที่พวกเขายึดครอบนับตั้งแต่ปี 2014

เมื่อวันอาทิตย์ (30) กลุ่มกบฏฮูตีที่อิหร่านหนุนหลัง ระบุว่า แผนการสันติภาพของยูเอ็น “รากฐานสำหรับการหารือ” ถึงแม้ว่าจะมี “ข้อบกพร่องโดยพื้นฐาน” ก็ตาม

ความขัดแย้งคร่าชีวิตผู้คนแล้วเกือบ 7,000 คน นับตั้งแต่ที่กลุ่มพันธมิตรเริ่มปฏิบัติการทางทหารในเยเมนเมื่อเดือนมีนาคมปี 2015 อ้างจากสหประชาชาติ

เมื่อวันพฤหัสบดี (3) เจ้าหน้าที่ทหาร กล่าวว่า นักรบกบฏ 8 คน และทหารนิยมฮาดี 5 คน ถูกสังหารในการปะทะในจังหวัดทาเอเซทางตอนกลาง

นักรบกบฏ 11 คน ได้รับบาดเจ็บในการสู้รบในเขตซาโล ซึ่งส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยเกือบทั้งหมด 5,000 คนของเขตนี้ต้องลี้ภัย เจ้าหน้าที่กล่าว