xs
xsm
sm
md
lg

สหภาพแรงงานไนจีเรียยื่นเส้นตาย 21 วัน จี้ รบ.แก้ปัญหาบริษัทน้ำมันต่างชาติปลดคนงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากรอยเตอร์
รอยเตอร์ /เอเจนซีส์ / MGR online - บรรดาบริษัทน้ำมันต่างชาติซึ่งดำเนินกิจการในไนจีเรียมีแผนปลดคนงานออกกว่า 3,000 คน ด้านสหภาพแรงงานซึ่งออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในวันพุธ (26 ต.ค.) เรียกร้องรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารี เร่งยื่นมือช่วยเหลือ

อิกเว อาเชเซ ประธานสหภาพแรงงานแห่งอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติแห่งชาติของไนจีเรีย ออกมาเปิดเผยหลังร่วมประชุมกับสมาชิกของสหภาพฯ ในวันพุธ (26) โดยระบุต้องการให้รัฐบาลไนจีเรียยื่นมือเข้ามาจัดการกับปัญหานี้ พร้อมยื่นเส้นตายเป็นเวลา 21 วันก่อนที่ทางสหภาพฯ จะดำเนินมาตรการกดดันขั้นต่อไป ซึ่งอาจรวมถึงการนัดหยุดงานประท้วง ที่จะสร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมพลังงานของไนจีเรียอย่างมหาศาล

ด้านเว็บไซต์ข่าว “พรีเมียม ไทมส์” รายงานว่า บรรดาบริษัทพลังงานต่างชาติซึ่งรวมถึงเอ็กซอน โมบิล, เชฟรอน, แพน โอเชียน และไซเป็ม ต่างมีส่วนในแผนการปลดคนงานชาวไนจีเรียออกกว่า 3,000 รายในครั้งนี้

ข่าวการปลดคนงานที่เกิดขึ้นล่าสุดถือเป็นข่าวร้ายซ้ำเติมอุตสาหกรรมพลังงานของไนจีเรีย นอกเหนือจากการก่อเหตุโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น ในพื้นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ที่ถือเป็นแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของประเทศ

ก่อนหน้านี้กลุ่มติดอาวุธ “ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส” ออกคำแถลงเมื่อ 24 ก.ย. อ้างตัวอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในพื้นที่แหล่งน้ำมันสำคัญในภาคใต้ของไนจีเรียนับตั้งแต่การประกาศหยุดยิงแบบฝ่ายเดียวของฝ่ายตน ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวระบุว่า ได้ลงมือโจมตีแนวท่อส่งออกน้ำมันดิบ “บอนนี” ตั้งแต่เมื่อกลางดึกของวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการก่อเหตุรุนแรงครั้งแรกของกลุ่มติดอาวุธที่เคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณ “สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์” ทางภาคใต้ของไนจีเรียกลุ่มนี้ ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศหยุดยิงแบบฝ่ายเดียวไปเมื่อเดือนสิงหาคม และแสดงจุดยืนว่าพร้อมเจรจาสันติภาพกับฝ่ายรัฐบาลไนจีเรีย

แหล่งข่าวในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานของไนจีเรียออกมาเปิดเผยว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อการส่งออกน้ำมันในพื้นที่

ก่อนหน้านี้ กลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส (เอ็นดีเอ) ประกาศเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง ระบุ ขอหยุดยิงแบบฝ่ายเดียวกับรัฐบาลกลางไนจีเรีย ระบุ พร้อมให้การสนับสนุนแนวคิดในการร่วมโต๊ะเจรจากับฝ่ายรัฐบาล

อย่างไรก็ดี คำแถลงผ่านเว็บไซต์ของกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส (เอ็นดีเอ) เมื่อ 20 ส.ค. ได้ระบุเงื่อนไขว่า นักรบของกลุ่มจะหันไปจับอาวุธอีกครั้ง หากฝ่ายรัฐบาลกลางไนจีเรีย “ไม่ตอบสนอง” ต่อข้อเสนอของฝ่ายตน และยังคงเดินหน้าการจับกุม และการกดขี่รังแกประชาชนในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์

ก่อนหน้านั้นเพียง 2 วัน ทางกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส ออกโรงขู่เมื่อ 18 ส.ค. ว่าจะเดินหน้าปลดแอกแยกดินแดนซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ออกจากการปกครองของไนจีเรียในวันที่ 1 ตุลาคม

คำแถลงของกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวประณามการปกครองของรัฐบาลไนจีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารี ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่ผลักดันให้เกิดความแตกแยกของประเทศ และว่า ประชาชนในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ไม่ต้องการอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ “รัฐที่ล้มเหลว” อย่างไนจีเรียอีกต่อไป

คำแถลงของกลุ่มไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส ระบุด้วยว่า การแยกตัวเป็นเอกราชของฝ่ายตนในวันที่ 1 ตุลาคม ถือเป็นวันเดียวกับวันคล้ายวันครบรอบการเป็นเอกราชของไนจีเรีย ที่หลุดพ้นจากการปกครองของสหราชอาณาจักร เมื่อปี ค.ศ. 1960

ความเคลื่อนไหวในการประกาศเดินหน้าแยกตัวเป็นเอกราชมีขึ้นหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส เปิดฉากโจมตีโรงกลั่นและท่อส่งน้ำมันในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้เป็นต้นมา โดยการโจมตีที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมน้ำมันของไนจีเรียอย่างใหญ่หลวง จนกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศหดหายไปกว่า 1 ใน 3 จากที่เคยผลิตได้สูงถึงวันละ 2.1 ล้านบาร์เรลเมื่อต้นปี 2016 เช่นเดียวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการลงทุนของบริษัทพลังงานต่างชาติในไนจีเรีย ที่รวมถึงบริษัทพลังงานชื่อดังอย่าง เชลล์, เอ็กซอน, เชฟรอน และเอนิ

ทั้งนี้ รายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันมีสัดส่วนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของรัฐบาลไนจีเรีย ขณะที่กลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส ระบุว่า สาเหตุที่พวกตนต้องจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลไนจีเรีย และต้องการแยกตัวเป็นเอกราชนั้น เป็นเพราะไม่พอใจที่ประชาชนในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ไม่ได้รับส่วนแบ่งการพัฒนาที่เท่าเทียมกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของไนจีเรีย ทั้งที่พื้นที่ของตนเป็นแหล่งน้ำมันที่นำรายได้เข้าประเทศมหาศาล
ภาพจากรอยเตอร์  ประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารี แห่งไนจีเรีย
ภาพจากรอยเตอร์
พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์

กำลังโหลดความคิดเห็น