เอเจนซีส์ / MGR online - กลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส (เอ็นดีเอ) ออกโรงขู่ในวันพฤหัสบดี (18 ส.ค.) จะเดินหน้าปลดแอกแยกดินแดน ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันบริเวณ “สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์” ออกจากการปกครองของไนจีเรียในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
คำแถลงของกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวประณามการปกครองของรัฐบาลไนจีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี มูฮัมมาดู บูฮารี ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่ผลักดันให้เกิดความแตกแยกของประเทศ และว่าประชาชนในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ไม่ต้องการอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ “รัฐที่ล้มเหลว” อย่างไนจีเรียอีกต่อไป
คำแถลงของกลุ่มไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส ระบุด้วยว่า การแยกตัวเป็นเอกราชของฝ่ายตนจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม ปีนี้ ซึ่งก็เป็นวันเดียวกับวันคล้ายวันครบรอบการเป็นเอกราชของไนจีเรียที่หลุดพ้นจากการปกครองของสหราชอาณาจักรเมื่อปี ค.ศ. 1960
ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการประกาศเดินหน้าแยกตัวเป็นเอกราชในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส เปิดฉากโจมตีโรงกลั่นและท่อส่งน้ำมันในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้เป็นต้นมา โดยการโจมตีที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมน้ำมันของไนจีเรียอย่างใหญ่หลวง จนกำลังการผลิตน้ำมันของประเทศหดหายไปกว่า 1 ใน 3 เช่นเดียวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการลงทุนของบริษัทพลังงานต่างชาติในไนจีเรียที่รวมถึงบริษัทเชลล์, เอ็กซอน, เชฟรอน และเอนิ
ทั้งนี้ รายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมันมีสัดส่วนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของรัฐบาลไนจีเรีย ขณะที่กลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์สระบุว่า สาเหตุที่พวกตนต้องจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลไนจีเรีย และต้องการแยกตัวเป็นเอกราชนั้น เป็นเพราะไม่พอใจที่ประชาชนในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ไม่ได้รับส่วนแบ่งการพัฒนาที่เท่าเทียมกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของไนจีเรีย ทั้งที่พื้นที่ของตนเป็นแหล่งน้ำมันที่นำรายได้เข้าประเทศมหาศาล
ก่อนหน้านี้กลุ่มติดอาวุธ “ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส” ประกาศเมื่อ 8 มิ.ย. ปฏิเสธข้อเสนอในการเจรจากับรัฐบาลไนจีเรีย เพื่อยุติเหตุโจมตีต่อเนื่องต่ออุตสาหกรรมน้ำมันในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ที่เป็นแหล่งน้ำมันสำคัญทางตอนใต้ของไนจีเรีย พร้อมกับการก่อเหตุโจมตีครั้งใหม่ด้วยการบุกเผาบ่อน้ำมันของบริษัทดังอย่าง “เชฟรอน” ที่อยู่ในพื้นที่
เหตุโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายให้กำลังการผลิตน้ำมันของไนจีเรียซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา ได้ปรับลดลงสู่ระดับที่ต่ำเตี้ยที่สุดในรอบ 20 ปี
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของไนจีเรียเผยว่า รัฐบาลไนจีเรียจะเริ่มการเจรจากับกลุ่มติดอาวุธไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์สในไม่ช้า เพื่อยุติการก่อเหตุโจมตีที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศ
อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวได้ปฏิเสธข้อเสนอในการเจรจากับรัฐบาลไนจีเรีย ถึงแม้จะเป็นการออกโรงปฏิเสธผ่านทาง “ทวิตเตอร์” ก็ตาม
นอกเหนือจากการปฏิเสธเข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพกับฝ่ายรัฐบาลไนจีเรียแล้ว กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวยังเผยด้วยว่า สมาชิกของตนอยู่เบื้องหลังการเผาบ่อน้ำมัน “RMP 20” ของบริษัทเชฟรอนที่ตั้งอยู่ในเขตวาร์ริ ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน หลังจากที่เคยก่อเหตุโจมตีในลักษณะที่คล้ายคลึงกันต่อบ่อน้ำมันของบริษัทต่างชาติ ทั้งบริษัทเชลล์ และ ENI มาแล้ว