xs
xsm
sm
md
lg

InPics : “ปูติน” และ “แมร์เคิล” ส่งสาส์นแสดงความเสียใจถึงคนไทย สื่อเพื่อนบ้านเกาะติดสถานการณ์ - กูเกิลขึ้นโบดำไว้อาลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สสิงคโปร์
เอพี/เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ส่งสาส์นแสดงความเสียใจมายังชาวไทยต่อข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยกล่าวยกย่องในหลวงว่า ทรงเป็นนักพัฒนาเศรษฐกิจ ผู้ที่ทำให้ธงชาติไทยสามารถถูกปักได้อย่างมั่นคงและสง่างามในต่างแดน และเหนือสิ่งอื่นใดในหลวงทรงได้กลายเป็นหัวใจของคนไทยทั้งชาติ และได้รับการยกย่องและนับถือในต่างแดน ส่วนผู้นำเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล กล่าวยกย่องพระองค์ในความสามารถนำรัฐนาวาไทยผ่านมรสุมร้ายทางเศรษฐกิจและการเมือง ในขณะที่หนังสือพิมพ์เพื่อนบ้านของไทย เป็นต้นว่า สเตรทไทม์สสิงคโปร์ และนิวสเตรทไทม์สมาเลเซีย ได้ใช้หน้าข่าวรายงานข่าวการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัว และความคืบหน้าของสถานการณ์อย่างเกาะติด ส่วนกูเกิล เสิร์ชเอนจินชื่อดังของสหรัฐฯ ได้แสดงโทนอักษรดำพื้นขาว พร้อมขึ้นโบดำไว้อาลัยแสดงความเสียใจมายังชาวไทย

เอพีรายงานวันนี้ (14 ต.ค.) ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจมายังประชาชนชาวไทยในการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของคนทั้งชาติ โดยใจความในเนื้อสารได้ระบุถึงความสำเร็จที่ผ่านมาในตลอดช่วงรัชสมัยของพระองค์ที่ยาวนานถึง 70 ปี

ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้นำความสำเร็จมาสู่เศรษฐกิจ สร้างความแข็งแกร่งของไทยในต่างแดนให้เพิ่มมากขึ้น และในสารโทรเลขจากกรุงมอสโกยังระบุต่อว่า “พระองค์ทรงได้รับการยอมรับอยู่ในหัวใจทุกผู้ของปวงชนชาวไทยโดยแท้จริง และเป็นที่ยอมรับและนับถือในต่างประเทศ”

ทั้งนี้ ในสาส์นแสดงความเสียใจที่ออกมาจากเครมลิน ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวต่อว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงถูกจารึกในรัสเซียในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในสาส์น ปูตินยังได้ร่วมส่งความอาลัยในการสูญเสียมายังราชวงศ์จักรีของไทย รัฐบาลไทย และประชาชนไทยมา ณ โอกาสนี้

นอกจากผู้นำรัสเซียแล้ว เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ยังได้ร่วมส่งสาส์นแสดงความไว้อาลัยมาเช่นกัน โดยเอพีรายงานว่า ในใจความของสารผู้นำเยอรมนีกล่าวว่า “ตลอดเวลา 70 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยเป็นผู้นำสมัยใหม่ และเสถียรภาพมาสู่ประเทศ”

ในสาส์นยังกล่าวต่อว่า “และนอกจากนี้พระเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระวิริยะอุตสาหะโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชนชาวไทยของพระองค์ และยังทรงสามารถนำรัฐนาวาประเทศผ่านมรสุมเลวร้ายด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาได้สำเร็จ”

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเยอร์ ได้ยกย่องในหลวงว่า พระองค์เป็นผู้สร้างนานัปการต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเยอรมนี

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ในประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์ หรือหนังสือพิมพ์นิวสเตรทไทม์สของมาเลเซีย ต่างอุทิศหน้าหนังสือพิมพ์รายงานข่าวสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในส่วนของหนังสือพิมพ์นิวสเตรทไทม์สมาเลเซีย สำหรับการรายงานในส่วนของพระราชประวัติของพระองค์แล้ว สื่อแดนเสือเหลืองกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญต่อปัญหาน้ำมาตลอดช่วงระยะเวลานานหลายทศวรรษ

เมื่อถึงคราวที่ไทยต้องเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 60 ปี เมื่อปี 2011 สื่อมาเลเซียชี้ว่า ในหลวงต้องการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยทรงได้ลงมือศึกษาการจัดการน้ำ รวมไปถึงการวิจัยน้ำท่วมและภัยแล้ง และพร้อมยังทรงพระราชทานคำแนะนำในการแก้ปัญหา

และในปัญหาความไม่สงบทางภาคใต้ นิวสเตรทไทม์สมาเลเซียกล่าวว่า ตลอดช่วงทั้งชีวิตของพระองค์ท่าน ในหลวงทรงทุ่มเทในการทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงและเป็นปึกแผ่น แต่ทว่าในสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอีกครั้งต่อพี่น้องชาวไทยมุสลิม ทำให้ถึงแม้ว่าพระองค์ผู้ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าสามารถเอาชนะหัวใจคนไทยทั้งชาติได้ แต่ทว่าในปี 2004 ความไม่สงบทางภาคใต้ได้คร่าชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 5,000 คน

นอกจากนี้ สื่อเพื่อนบ้านยังรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดถึงปฏิกิริยาของประชาชนชาวไทยที่ได้รับทราบข่าวการสวรรคตจากโรงพยาบาลศิริราช เป็นต้นว่า สเตรทไทม์สของสิงคโปร์ระบุว่ามีประชาชนบางส่วนถึงกับเป็นลมเมื่อทราบว่าในหลวงสวรรคตแล้ว

และในการรายงานยังรวมไปถึงแถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรีไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อประชาชนชาวไทยถึงข่าวการสวรรคต และรายงานต่อประชาชนไทยให้รับทราบถึงข่าว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับการขึ้นครองราชย์สืบต่อเป็นพระมหากษัตริย์ของไทยพระองค์ถัดไป แต่พระองค์ทรงขอให้เลื่อนระยะเวลาออกไปก่อน

โดยในรายงานของสื่อสเตรทไทม์สของสิงคโปร์ พล.อ.ประยุทธกล่าวว่า “พระองค์รับสั่งว่า ขอให้เรารอเวลาที่เหมาะสม”

และในรายงานของสเตรทไทม์สสิงคโปร์ยังระบุเพิ่มเติมว่า บรรดานักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในไทยนี้จะไม่นำมาสู่ความไม่สงบในประเทศถึงแม้ว่ารัฐบาลไทยที่มาจากการทำรัฐประหารในขณะนี้ จะไม่ทำให้ความตึงเครียดในระยะยาวในประเทศที่มีการแบ่งขั้วอำนาจทางการเมืองนั้นลดน้อยลงก็ตาม

ทั้งนี้ พบว่าในแถลงการณ์ที่ออกมาทางโทรทัศน์ของนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ได้มีการประกาศเตือนประชาชนชาวไทยว่า “ขอให้โปรดช่วยกันรักษาความสงบให้บ้านเมือง” และกล่าวต่อว่า “อย่าปล่อยให้ใครสามารถฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ความแตกแยกที่อาจนำไปสู่ความไม่สงบได้”
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังร้องขอให้ประชาชนชาวไทยทำการไว้ทุกข์แด่ในหลวงเป็นเวลา 1 ปี รวมไปถึงการงดจัดงานรื่นเริงออกไป 30 วัน

และในรายงานของหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สสิงคโปร์ยังระบุต่อว่า ทั่วโลกต่างร่วมแสดงความเสียใจและไว้อาลัยการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัทเสิร์จเอนจินชื่อดังของโลก กูเกิล ร่วมไว้อาลัยต่อข่าวการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวด้วยการแสดงภาพตัวอักษร “กูเกิล” ของกูเกิลเสริชเอนจินของไทยทั้งในส่วนภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นสีดำบนพื้นสีขาว พร้อมประดับโบสีดำอยู่ด้านล่าง













ภาพแสดงการร่วมไว้อาลัยของบริษัทกูเกิล







กำลังโหลดความคิดเห็น