รัสเซียจัดหนักเสริมฝูงบินรบยกระดับขยี้กบฏในอะเลปโป เมินเสียงโวยวายจากนานาชาติ

รอยเตอร์ - รัสเซียส่งเครื่องบินรบเข้าไปยังซีเรียเพิ่มเติม เพื่อยกระดับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ จากรายงานของหนังสือพิมพ์แดนหมีขาวในวันศุกร์ (30 ก.ย.) ขณะที่มอสโกเพิกเฉยต่อเสียงตำหนิจากนานาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายที่ทางตะวันตกระบุว่ามันเป็นการยิงตอร์ปิโดเข้าใส่ความพยายามทางการทูต

หนังสือพิมพ์อิซเวสเตียระบุว่า ฝูงบินซู-24 และซู-34 เดินทางไปถึงฐานทัพอากาศฮเมย์มิมของซีเรียแล้ว พร้อมอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่กองทัพรายหนึ่งเผยว่า “ถ้าจำเป็น ฝูงบินของกองทัพอากาศจะถูกส่งเข้าไปเสริมเพิ่มเติมภายใน 2 หรือ 3 วันข้างหน้า” เขากล่าว “เครื่องบินโจมตีภาคพื้น ซู-25 ที่ถูกกำหนดไว้ว่าอาจถูกส่งเข้าเสริมกำลังในฮเมย์มิม ได้เลือกฝูงบินและลูกเรือเตรียมพร้อมไว้แล้ว เหลือเพียงรอคำสั่งจากเหล่าผู้บังคับบัญชาของพวกเขาเท่านั้น”

ซู-25 เป็นเครื่องบินหุ้มเกราะ 2 เครื่องยนต์ เคยทดสอบต่อสู้ในช่วงทศวรรษ 1980 ระหว่างโซเวียตทำสงครามในอัฟกานิสถาน โดยมันมีแสนยานุภาพในการระดมยิงเป้าหมายต่างๆ ทางภาคพื้นหรือปฏิบัติการในฐานะเครื่องบินทิ้งระเบิด อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวของอิซเวสเตีย

ถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาวหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี หารือกันทางโทรศัพท์ ระบุว่าผู้นำทั้งสองต่างประณามการทิ้งระเบิดถถล่มเมืองอะเลปโปของรัสเซียและรัฐบาลซีเรียว่า “โหดร้ายป่าเถื่อน”

การสู้รบดุเดือดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรัฐบาลซีเรียภายใต้การสนับสนุนของรัสเซียเปิดปฏิบัติการรุกคืบหวังเข้ายึดครองทั่วทั้งเมืองอะเลปโปและระดมโจมตีป้องปราการในตัวเมืองสุดท้ายของฝ่ายกบฏอย่างหนักหน่วง

มอสโกแและพันธมิตรอย่างประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด พังข้อตกลงหยุดยิงเมื่อช่วงต้นเดือน ด้วยการเปิดฉากการโจมตีที่อาจเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและหนักหน่วงที่สุดในสงครามกลางเมืองซีเรีย ที่ตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว

เหล่าชาติตะวันตกกล่าวหารัสเซียกำลังก่ออาชญากรรมสงคราม และบอกว่ามอสโกเล็งเป้าหมายอย่างจงใจไปที่พลเรือน โรงพยาบาลและการส่งมอบความช่วยเหลือในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อเขย่าขวัญประชาชนกว่า 250,000 คนที่ติดอยู่ภายในพื้นที่ทางตะวันออกของอะเลปโปที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏ และเวลานี้ถูกปิดล้อม

อย่างไรก็ตาม มอสโกและดามัสกัสบอกว่าพวกเขาเล็งเป้าหมายที่พวกนักรบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

มีประชาชนเสียชีวิตแล้วหลายร้อยรายจากปฏิบัติการทิ้งระเบิดและอีกหลายร้อยคนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีจำนวนเพียงเล็กน้อยที่เข้าถึงการรักษา เนื่องจากสถานพยาบาลต่างๆ ขาดเสบียงเวชภัณฑ์พื้นฐาน

ชาวบ้านบอกว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโหดร้ายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีการระดมทิ้งบอมบ์อย่างหนักจนอาคารต่างๆ พังราบเป็นหน้ากอง ทำผู้คนจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากหักพัง

รัสเซียเข้าร่วมสงครามซีเรียเมื่อ 1 ปีก่อน เพื่อถ่วงดุลอำนาจให้เป็นไปในทางของประธานาธิบดีอัสซาดต้องการ ขณะที่ผู้นำรายนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังภาคพื้นอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธชีอะห์จากเลบานอน และอิรัก

เครมลินระบุในวันศุกร์ (30 ก.ย.) ว่าไม่มีกรอบเวลาสำหรับปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในซีเรีย และผลของปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของมอสโกเมื่อปีที่แล้วก็คือไม่มีทั้งพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) หรืออัลกออิดะห์ หรือแม้กระทั่งนุสราฟรอนต์ ได้เสวยสุขในดามัสกัส