เอเจนซีส์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิวในสหรัฐฯล่าสุดเพิ่มเป็น 36 รายแล้ว รัฐนอร์ทแคโรไลนาที่ได้รับความเสียหายหนักมากที่สุดในบรรดารัฐทั้งหมด ยังคงต้องจมใต้น้ำต่อไป โดยมีชาวนอร์ทแคโรไลนาที่ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้สูงถึง 255,000 ราย ในขณะที่สถานการณ์ในเฮติยังคงน่าห่วงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) องค์การอนามัยโลก WHO ออกแถลงการณ์ ส่งความช่วยเหลือวัคซีนอหิวาตกโรคจำนวน 1 ล้านโดส ไปยังเฮติเพื่อแก้วิกฤตการระบาด
ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ว่า แถลงการณ์ของผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนา แพท แม็คครอรี (Pat McCrory) ออกมาในวันอังคาร (11 ต.ค.) ระบุว่า ผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิวยังคงมีอยู่ต่อไป โดยพบว่า ทางเขตภาคตะวันออกและภาคกลางของรัฐยังคงต้องจมอยู่ใต้น้ำ ถนนไฮเวย์หลายสายไม่สามารถใช้งานได้ และมีประชาชนอีกจำนวนถึง 255,000 ราย ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้
ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิวในฝั่งตะวันออกของอเมริกามีจำนวนเพิ่มล่าสุด 36 ราย ในวันอังคาร (11 ต.ค.)
ทั้งนี้ จากแถลงการณ์พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว จำนวน 17 ราย และมีผู้สูญหายอีก 3 ราย ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา และเมื่อรวมเข้ากับการอ้างอิงจากการรายงานของสถานีรายงานอากาศอเมริกา ตัวเลขผู้เสียชีวิต 12 ราย ในรัฐฟลอริดา 3 ราย ในรัฐเซาท์แคโรไลนา 3 ราย ในรัฐจอร์เจีย และอีก 1 ราย ในรัฐเวอร์จิเนีย
ซึ่งจากแถลงการณ์ แม็คครอรี ระบุว่า คาดว่า ตัวเลขความสูญเสียในรัฐอาจเพิ่มจำนวนขึ้นเพราะสภาพที่เลวร้ายยังคงดำเนินต่อไป พร้อมยังออกคำเตือนไปยังชาวรัฐนอร์ทแคโรไลนาและบรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินไม่ให้เสี่ยงอันตรายต่อชีวิต
และ แม็คครอรี ยังชี้ต่อว่า เชื่อว่า สถานการณ์น้ำท่วมสูงภายในรัฐจะยังคงส่งผลต่อไปทางตะวันออกและทางภาคกลางของรัฐนอร์ทแคโรไลนาในตลอดทั้งสัปดาห์นี้ พร้อมชี้ว่า พื้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ แม่น้ำนูซ (Neuse) แม่น้ำทาร์ (Tar) แม่น้ำลัมเบอร์ (Lumber) และแม่น้ำเคป เฟียร์ (Cape Fear)
และมาจนถึงล่าสุดมีประชาชนจำนวนไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ถูกช่วยเหลืออกมาจากบริเวณน้ำท่วมสำเร็จ และคาดว่า ตัวเลขตลอดทั้งวันจะเพิ่มมากขึ้น ฟ็อกซ์นิวส์ชี้
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่กู้ภัยผู้ประสบภัย คือ ทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐ ยามฝั่งสหรัฐฯ และตำรวจทางหลวงอเมริกา ที่มาพร้อมกับกำลัวพล เรือ เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบิน
และมีรายงานว่า ผู้ที่เสียชีวิต 3 รายล่าสุดในเหตุพายุเฮอร์ริเคนแมทธิวภายในรัฐแคโรไลนา คือ เจ้าของรถรายหนึ่งที่รถของเขาถูกต้นไม้ล้มทับ และอีก 2 รายถูกพบเป็นศพภายในรถยนต์ของตัวเองที่จมน้ำ
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีคนเกือบ 4,000 คน ต้องอาศัยอยู่ภายในศูนย์อพยพฉุกเฉินชั่วคราว ซึ่งส่วนมากตั้งอยู่ภายในโรงเรียน โดยพบว่าคำสั่งอพยพฉุกเฉินเกิดขึ้นในเมือง เคนซิงตัน (Kinston) เมืองกรีนวิล (Greenville) เมืองพรินซ์วิล (Princeville) บางส่วนของ มัวร์ เคาน์ตี (Moore County) ใกล้กับวูดเลค แดม (Woodlake Dam) และบางส่วนของเลนัวร์ เคาน์ตี (Lenoir County)
และมากกว่านี้บริเวณทางเหนือในรัฐเวอร์จิเนีย ที่มีน้ำท่วมฉับพลันและไฟฟ้าดับเกิดขึ้น ซึ่งเหยื่อพายุเฮอร์ริเคนแมทธิวรายเดียวที่เกิดขึ้นในรัฐแห่งนี้ คือ ชายรายหนึ่งที่ขับรถพุ่งเข้าชนรถบรรทุกที่จอดตายกลางถนนไฮเวย์ เนื่องมาจากต้นไม้ล้มทับ สถานีรายงานสภาพอากาศสหรัฐฯรายงานล่าสุด
ส่วนรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นรัฐที่แรกที่รับการเข้ามาของพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว มียอดเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย นับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) ก่อนหน้านี้ และบริษัทไฟฟ้าฟลอริดาพาวเวอร์แอนด์ไลท์ (Florida Power & Light) ที่ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าภายในรัฐออกแถลงการณ์ว่า มีผู้ใช้ไฟฟ้าราว 11,010 คน ต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้
และในรัฐจอร์เจีย พบว่า มีเหยื่ออย่างน้อย 3 ราย ต้องสังเวยผลจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในรัฐเซาท์แคโรไรนา ที่ประสบกับแผ่นดินถล่มในวันเสาร์ (8 ต.ค.)
และ CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ด่วนในวันอังคาร (11 ต.ค.) เตรียมจัดส่งความช่วยเหลือด่วนไปยังเฮติที่อยู่ในขั้นวิกฤตด้วยการระบาดอหิวาตกโรคหลังพายุเฮอร์ริเคนแมทธิวที่ขาดแคลนน้ำสะอาดขั้นร้ายแรง โดยทางหน่วยงานจะส่งวัคซีนอหิวาตกโรคจำนวน 1 ล้านโดสไปยังประเทศเกาะแคริบเบียนแห่งนี้
โดย โดมินิค เลกรอซ (Dominique Legros) ผู้เชี่ยวชาญอหิวาตกโรคของ WHO ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเจนีวา ว่า องค์การอนามัยโลกตัดสินใจในวันจันทร์ (10 ต.ค.) ในการส่งความช่วยเหลือวัคซีนไปให้เพื่อหยุดยั้งการระบาดโรคอหิวาตกโรคที่ระบาดทางน้ำ
และเลกรอซยังกล่าวต่อว่า ปัจจัยวิกฤตน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในเฮติ ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ น้ำสะอาดที่ดื่มได้นั้นมีการปนเปื้อนจากระบบท่อน้ำทิ้ง ทำให้เกิดความกังวลไปถึงความเสี่ยงที่จะมีการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยอหิวาตกโรคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาของปี ซึ่งหลังจากที่ได้มีจดบันทึกมาไม่กี่ปีล่าสุด ทำให้เราทราบว่า มีการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยตามปกติในช่วงระหว่างพฤศจิกายน - มกราคม
ซึ่งตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขเฮติประจำศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติเฮติ ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ป่วยอหิวาตกโรคล่าสุด ว่า ปัจจุบันนี้มีเคสที่ได้รับการยืนยัน 128 ราย ป่วยด้วยอหิวาตกโรค และอีก 160 ราย สงสัยในจังหวัดซูด (Sud) รวมไปถึงจังหวัดกร็องด็องส์ (Grand'Anse) และจังหวัดนิป (Nippes)
CNN รายงานต่อว่า เฮติเป็นประเทศที่มีภาวการณ์ป่วยด้วยโรคอหิวาตกโรคสูงที่สุดในโลก ซึ่งมีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยเลขนี้เกือบ 10,000 คน นับตั้งแต่ปี 2010 เมื่อครั้งที่ทหารรักษาสันติภาพของยูเอ็นได้เป็นผู้นำเข้ามาหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในปีนั้น โดยองค์การอนามัยโลก WHO ได้รายงานจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ 80,000 คน ในเฮตินับตั้งแต่การเริ่มต้นการระบาด และอีก 770 รายต่อสัปดาห์ในปี 2016
โดยประธานาธิบดีเฉพาะกาลเฮติ โฮเซเลอเม ไพรเวิร์ต (Jocelerme Privert) ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN ในวันจันทร์ (10 ต.ค.) ยอมรับว่า พายุเฮอร์ริเคนได้เพิ่มจำนวนผู้ป่วยอหิวาตกโรคให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และทำให้ความพยายามในการยับยั้งการระบาดโรคนี้ต้องด้อยลง “มีความพยายามเป็นอย่างมากในการควบคุมการระบาด แต่ทว่าพายุเฮอร์ริเคนกลับเป็นตัวเร่งให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น” ไพรเวิร์ตแถลง
และผู้เชี่ยวชาญอหิวาตกโรคจาก WHO ได้เปิดเผยต่อว่า คาดว่า วัคซีนจะครอบคลุมจำนวน 500,000 คน หรือ 1 ล้านคน ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่การแพทย์เลือกที่จะใช้แบบ 2 โดสตามปกติ หรือแบบ 1 โดสที่จะทำให้ง่ายต่อการใช้ และสามารถทำให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ พบว่า ก่อนการเกิดวิกฤตพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว พบว่า มีประชาชนชาวเฮติแค่ 1 ใน 3 เท่านั้นที่เข้าถึงห้องสุขาที่ถูกสุขอนามัย และมีจำนวนน้อยกว่า 3 ใน 5 เท่านั้นที่เข้าถึงน้ำสะอาด และในเขตพื้นที่ห่างไกล พบว่า อัตราตัวเลขต่ำลง โดยมีแค่ 1 ใน 4 เท่านั้นที่เข้าถึงสุขอนามัย และแค่ 1 ใน 2 ที่เข้าถึงน้ำ โดยองค์การยูนิเซฟ ระบุว่า โรคท้องร่วงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปีในเฮติ
