xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งด่ายิ่งดัง! คะแนนนิยม “ดูเตอร์เต” พุ่งเฉียด 80% แม้คนตายเป็นเบือจากสงครามยาเสพติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/MGROnline - ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์มีคะแนนนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนแรกของการบริหารประเทศ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่า ชาวเมืองตากาล็อกส่วนใหญ่รับได้กับสงครามยาเสพติดที่เป็น "ซิกเนเจอร์" ของผู้นำขาโหด ผลสำรวจความคิดเห็นอิสระเผยวันนี้ (6 ต.ค.)

สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงกับฟิลิปปินส์ ตลอดจนองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และสหภาพยุโรป ต่างประณามนโยบายกวาดล้างยาเสพติดที่โหดเหี้ยมของ ดูเตอร์เต ซึ่งล่าสุดมีคนตายไปแล้วกว่า 3,000 ศพ และทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าจะมีคนถูกสังหารโดยไม่ผ่านการไต่สวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจโดยสถาบัน โซเชียล เวทเธอร์ สเตชันส์ กลับพบว่า ชาวฟิลิปปินส์ร้อยละ 76 “พึงพอใจ” กับการทำงานของดูเตอร์เต โดยมีเพียงร้อยละ 11 เท่านั้นที่ “ไม่พอใจ” ที่เหลือยังไม่ได้ตัดสินใจ

“ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีจะเริ่มต้นได้ดีมาก” เออร์เนสโต อาเบลลา โฆษกของดูเตอร์เต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังทราบผลสำรวจ

“ประชาชนไว้วางใจในสิ่งที่ท่านทำ”

สถาบันสำรวจความคิดเห็นซึ่งมีฐานที่กรุงมะนิลาแห่งนี้ได้สอบถามประชากรวัยผู้ใหญ่ 1,200 ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยตั้งคำถามง่ายๆ ว่า พวกเขาคิดอย่างไรกับผลงานของดูเตอร์เต โดยไม่ได้อ้างถึงสงครามยาเสพติด

ตัวเลขที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงระดับความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อเดือน พ.ค. ซึ่ง ดูเตอร์เต ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียง 37.6% ซึ่งถือว่าถล่มทลายพอสมควร

การเลือกตั้งประธานาธิบดีในฟิลิปปินส์จะดูแค่ว่าผู้สมัครคนใดได้คะแนนสูงสุด ซึ่งคู่แข่งที่มีคะแนนรองจาก ดูเตอร์เต ได้เสียงมาแค่ 22.6% เท่านั้น

หนังสือพิมพ์ธุรกิจบิสสิเนสเวิลด์ซึ่งตีแผ่ผลสำรวจชิ้นนี้ ระบุว่า หลังจากยุคเผด็จการ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ล่มสลายลงในปี 1986 อดีตผู้นำฟิลิปปินส์เพียงคนเดียวที่เคยมีคะแนนนิยมในช่วง 3 เดือนแรกสูงกว่า ดูเตอร์เต ก็คือประธานาธิบดี ฟิเดล รามอส ซึ่งปกครองประเทศระหว่างปี 1992-1998

รามอส เป็นพันธมิตรสำคัญคนหนึ่งของ ดูเตอร์เต

รัฐธรรมนูญซึ่งแก้ไขในยุคหลังมาร์กอสกำหนดให้ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 สมัย ซึ่งมีระยะเวลา 6 ปี

ดูเตอร์เต เป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวามานานกว่า 20 ปี ก่อนผลักดันตนเองขึ้นมาถึงบัลลังก์ผู้นำประเทศ ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่าจะเข่นฆ่าอาชญากรเป็นแสนๆ คน และทำให้แดนตากาล็อกปลอดจากยาเสพติดภายใน 6 เดือน

นักการเมืองฝีปากกล้าผู้นี้ขู่จะเอาศพอาชญากรไปทิ้งในอ่าวมะนิลา “เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงปลาให้อ้วน” พร้อมให้สัญญาว่าจะปกป้องตำรวจและทหารจากการถูกเอาผิดฐานวิสามัญฆาตกรรมคนร้าย

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ดูเตอร์เต ก็พูดจาข่มขู่และยั่วยุให้เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมกันกวาดล้างอาชญากรมาโดยตลอด แถมยังด่ากราดพวกที่กล้าวิจารณ์ตนเองแบบไม่ไว้หน้า

ดูเตอร์เต กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตน “มีความสุขหากจะได้ฆ่า” พวกติดยาถึง 3 ล้านคน และยังเปรียบเทียบสงครามอาชญากรรมครั้งนี้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์

หลังถูกนานาชาติรุมประณามอย่างหนัก ดูเตอร์เต ก็ยอมขออภัยต่อชุมชนชาวยิว แต่ยังยืนยันความตั้งใจที่จะสังหารผู้ติดยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ

ดูเตอร์เต ย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ไม่ผิดกฎหมาย และการที่ตำรวจวิสามัญฯ ผู้ต้องสงสัยก็เพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนรายอื่นๆ ที่ตายนั้นเกิดจากการ “ฆ่าตัดตอน” โดยแก๊งอาชญากร

ผู้นำฟิลิปปินส์เมินเสียงวิจารณ์จากประชาคมโลกที่ไม่เห็นด้วยกับระบบศาลเตี้ยของเขา โดยด่าทอประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ว่า “ลูกกะหรี่” และยังไล่ให้ “ไปลงนรกเสีย”

ดูเตอร์เต ยังเคยชูนิ้วกลางพร้อมเอ่ยคำว่า “f_uck you” กับสหภาพยุโรป แม้แต่เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มุน ก็เคยถูกเขาด่าว่า “โง่” มาแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น