“ดูเตอร์เต” ฉุน “อียู” ชูนิ้วกลางด่า “ไปตายซะ” หลังถูกวิจารณ์ว่าตั้งศาลเตี้ย-ฆ่าตัดตอน (ชมคลิป)

เอเจนซีส์ - “ดูเตอร์เต” สบถใส่อียู หลังถูกวิจารณ์เรื่องศาลเตี้ยและการฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติด ขณะเดียวกัน วุฒิสมาชิกหญิงฟิลิปปินส์ที่ลุกขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ กลับตาลปัตรกลายเป็นผู้ต้องหาคอร์รัปชันเสียเอง



ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ สบถ “ไปตายซะ” (f.. you) พร้อมชูนิ้วกลาง ขณะกล่าวถึงสหภาพยุโรป (อียู) ในระหว่างพูดจากับพวกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองดาเวา ภูมิลำเนาของเขา เมื่อคืนวันอังคาร (20 ก.ย.) และมีการบันทึกภาพเอาไว้โดยสถานีโทรทัศน์เอบีเอส-ซีบีเอ็น

ผู้นำปากร้ายวัย 71 ปี ของแดนตากาล็อก เที่ยวด่ากราดต่างชาติที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์สงครามยาเสพติดของตนมานับครั้งไม่ถ้วน โดยที่เป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้ คือ ตอนที่เรียกประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของอเมริกาว่า “ลูกกะหรี่”

ดูเตอร์เตชนะการเลือกตั้งชนิดถล่มทลายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากการประกาศกวาดล้างการค้ายาเสพติดและปลิดชีพอาชญากร 100,000 คน ภายใน 6 เดือน

นับจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน มีคนเสียชีวิตราว 3,000 คน โดย 1 ใน 3 น่าสงสัยว่าถูกตำรวจยิงตาย หรือถูกสังหารโดยผู้โจมตีลึกลับ

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18) ดูเตอร์เต บอกว่า อยากต่อเวลาสงครามปราบปรามอาชญากรรมอีก 6 เดือนเนื่องจากปัญหาเลวร้ายกว่าที่คาดไว้

สัปดาห์ที่แล้ว รัฐสภายุโรปได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ศาลเตี้ยและการฆ่าตัดตอนในสงครามกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดของฟิลิปปินส์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเรียกร้องให้ดูเตอร์เตยุติกระแสดังกล่าว รวมทั้งเปิดการสอบสวนทันที

ดูเตอร์เตตอบโต้เมื่อวันอังคาร (20) ว่า พวกชาติสมาชิกอียู โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝรั่งเศส และอังกฤษ เป็นพวก “มือถือสากปากถือศีล” เพราะบรรพบุรุษยุคอาณานิคมของพวกเขาได้สังหารชาวอาหรับและชาติอื่น ๆ เป็นหมื่นเป็นแสนคน ขณะที่สงครามกวาดล้างอาชญากรรมของตน มีแต่อาชญากรที่ถูกสังหาร จึงไม่ควรเหมาว่า เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

นอกจากนั้น ผู้นำฟิลิปปินส์ยังย้ำว่า จะปกป้องทหารและตำรวจไม่ให้ถูกดำเนินคดีจากการสังหารอาชญากรและผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งยังจะเลื่อนตำแหน่งให้ด้วย

ในวันเดียวกัน นักโทษคนสำคัญได้ขึ้นให้การต่อรัฐสภา ว่า ติดสินบนอดีตรัฐมนตรียุติธรรม และปัจจุบันเป็นวุฒิสมาชิกที่พยายามตรวจสอบสงครามยาเสพติดของดูเตอร์เต

วุฒิสมาชิกคนดังกล่าว คือ ไลลา เดอ ลิมา โดยล่าสุดเธอกลับถูก เฮอร์เบิร์ต โคลังโก นักโทษคดีปล้นธนาคาร ให้การในรัฐสภา ว่า รับสินบนจากตนเดือนละ 3 ล้านเปโซ (ราว 62,637 ดอลลาร์) นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2013 ซึ่งขณะนั้น เดอ ลิมา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยให้ตนได้จัดคอนเสิร์ตและขายเบียร์ในคุก

โคลังโก ยังให้การว่า เปิดซ่องโสเภณีและถูกบีบให้ค้ายาเพื่อหาเงินมาเป็นทุนให้เดอ ลิมาใช้หาเสียงเลือกตั้ง แต่ตนไม่ยอมทำตาม

นอกจากนี้ ยังมีนักโทษอีกคนให้การว่า เห็น เดอ ลิมา ในห้องขังนักโทษคนหนึ่งที่ผูกขาดการค้ายาในคุกใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ และอดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คน ให้การว่า นำสินบน 5 ล้านเปโซ ไปส่งให้ เดอ ลิมา ที่บ้าน

ทางฝ่าย เดอ ลิมา ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และบอกว่า พยานล้วนเป็นนักโทษและอดีตเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานที่คับแค้น หรือคนที่ถูกศัตรูทางการเมืองของเธอบังคับ เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู เนื่องจากเธอเป็นคนที่ลุกขึ้นมาวิจารณ์และตรวจสอบผู้ที่มีอำนาจที่ลุแก่อำนาจ

การให้ปากคำดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่วุฒิสภาลงมติถอด เดอ ลิมา จากตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบสงครามยาเสพติด

การโดดเดี่ยว เดอ ลิมา รุนแรงขึ้นนับจากที่เธอนำตัวมือปืนผู้หนึ่งไปให้ปากคำต่อวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมือปืนคนดังกล่าวสารภาพว่า เห็นดูเตอร์เตยิงชายคนหนึ่งตายและยังสั่งฆ่าคนอีกมากมายขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีดาเวาในช่วงทศวรรษ 1990

ด้าน ดูเตอร์เต กล่าวถึงเหตุการณ์ในรัฐสภา ว่า แสดงให้เห็นว่า มีคนมากมายที่พร้อมสนับสนุนข้อกล่าวหาของตนที่ว่า เดอ ลิมา รับเงินจากแก๊งค้ายา