เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฆวน มานูเอล ซานโตส แห่งโคลอมเบีย ประกาศวานนี้ (4 ต.ค.) ว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัฐบาลกับกองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย (Fuerzas Armadas Revolucionarias de Colombia - FARC) จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ต.ค. ท่ามกลางความพยายามของทั้งสองฝ่ายที่จะหาทางออกให้แก่สงครามที่ยืดเยื้อมากว่าครึ่งศตวรรษ หลังจากชาวโคลอมเบียส่วนใหญ่ลงประชามติ “คัดค้าน” ข้อตกลงสันติภาพ
โรดริโก ลอนโดโน หรืออีกฉายาหนึ่งว่า “ทีโมเลียน ทีโมเชนโก” ผู้นำสูงสุดของกบฏฟาร์ก ได้ออกมาตั้งคำถามผ่านทวิตเตอร์ทันทีว่า “แล้วหลังจากนั้นจะทำสงครามกันต่อหรือ”
ก่อนหน้านั้น 1 วัน ผู้นำกบฏฟาร์กยืนยันว่า กองกำลังของเขาจะยึดถือข้อตกลงหยุดยิงต่อไป แม้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่รับข้อตกลงสันติภาพก็ตาม
ประธานาธิบดีซานโตส ได้มีถ้อยแถลงจากทำเนียบว่า “ผมหวังว่าเราจะสามารถก้าวต่อไปข้างหน้า และยอมรับข้อตกลงซึ่งมีความจำเป็นในการยุติความขัดแย้งครั้งนี้”
เจ้าหน้าที่โคลอมเบียระบุว่า ซานโตส จะพบกับอดีตประธานาธิบดีอัลวาโร อูริเบ แกนนำฝ่ายคัดค้านข้อตกลงสันติภาพ ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในเวลา 11.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (5) เพื่อกอบกู้ข้อตกลงที่เขาหวังจะให้เป็นผลงานชิ้นสำคัญภายใต้รัฐบาลของเขา
เมื่อวันอาทิตย์ (2) ชาวโคลอมเบียได้ลงประชามติ “คัดค้าน” ข้อตกลงสันติภาพที่รัฐบาลได้เจรจากับกบฏฟาร์กด้วยคะแนนเกินครึ่งมาแบบเฉียดฉิว ส่งผลให้ความพยายามเกือบ 4 ปีเต็มในการเจรจายุติสงครามพังทลายลงในพริบตา
คณะกรรมการการเลือกตั้งโคลอมเบียแถลงว่า ฝ่ายที่โหวต “โน” มีคะแนนมากกว่าเพียง 57,000 เสียง หรือเท่ากับชนะไม่ถึง 0.50%
อูริเบ ชี้ว่า ข้อตกลงสันติภาพของ ซานโตส นั้นอ่อนข้อให้แก่พวกกบฏหัวซ้ายมากเกินไป ทั้งที่นักรบเหล่านี้ก่ออาชญากรรมสารพัดรูปแบบ ทั้งการสังหาร ลักพาตัว และข่มขู่
ผลประชามติที่ออกมาทำให้ประธานาธิบดี ซานโตส ต้องพยายามหาทางออกที่ทั้งกบฏฟาร์กและฝ่าย อูริเบ จะรับได้
ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกรุงโบโกตากับกบฏฟาร์กเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. หรือ 5 วันหลังจากที่ผู้แทนเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์ที่เมืองหลวงคิวบา
เดิมทีทั้งสองฝ่ายต้องการให้ข้อตกลงหยุดยิงมีผลอย่างถาวร
อุมเบร์โต เด ลา กาลล์ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลโคลอมเบีย ได้เดินทางกลับไปยังกรุงฮาวานาอีกครั้ง เพื่อดูว่ากบฏฟาร์กเต็มใจที่จะทบทวนเนื้อหาของข้อตกลงสันติภาพหรือไม่
ซานโตส ได้มอบหมายให้ เด ลา กาลล์, รัฐมนตรีต่างประเทศ มาเรีย อังเกลา ฮอลกวิน และรัฐมนตรีกลาโหม ลูอิซ การ์โลส วิลเลกัส ทำหน้าที่เจรจากับฝ่ายค้านเพื่อกอบกู้ข้อตกลงสันติภาพ
ฮอลกวิน ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลง
กบฏ FARC ลุกขึ้นจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลตั้งแต่ปี 1964 เนื่องจากไม่พอใจปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ นักรบเหล่านี้แสวงหาเงินทุนจากการค้าโคเคนและจับตัวประกันเรียกค่าไถ่ โดยในช่วงปลายทศวรรษ 1990 กบฏ FARC มีสมาชิกมากถึง 17,000 คน และมีอิทธิพลควบคุมดินแดนส่วนใหญ่ในโคลอมเบีย
ทางการโคลอมเบียประเมินว่า สงครามซึ่งเกิดจากปมขัดแย้งเรื่องอุดมการณ์และดินแดนได้คร่าชีวิตประชาชนไปราว 260,000 คน โดยมีผู้สูญหายราว 45,000 คน และอีกราว 6.9 ล้านคนต้องพลัดถิ่นฐาน