เอเอฟพี - รัฐสภาโคลอมเบียผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่สมาชิกกองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติโคลอมเบีย (FARC) หลายพันคนเมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงสันติภาพที่ทำร่วมกันไว้ ขณะที่รัฐบาลโบโกตาออกมากล่าวชื่นชมกฎหมายนิรโทษกรรมว่าเป็นความก้าวหน้า “ครั้งประวัติศาสตร์” ที่จะนำไปสู่การยุติสงครามที่ยืดเยื้อมากว่า 50 ปี
“ขอขอบคุณสภาคองเกรสที่ได้ทำการโหวตครั้งประวัติศาสตร์เพื่อรับรองกฎหมายนิรโทษกรรม อันจะเป็นก้าวแรกไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน” ประธานาธิบดีฆวน มานูเอล ซานโตส แห่งโคลอมเบีย ทวีตข้อความ
กฎหมายใหม่นี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกกบฏฟาร์กได้รับสิทธิพิเศษทางกฎหมาย การนิรโทษกรรม และการอภัยโทษความผิดไม่ว่าจะเป็นคดีการเมือง หรืออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องก็ตาม
วุฒิสภาโคลอมเบียผ่านร่างกฎหมายด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 69-0 เสียง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรก็ได้พร้อมใจกันโหวตอนุมัติ 121-0 เสียง
กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่ ซึ่งรัฐบาลและกบฏฟาร์กตกลงกันได้เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
ข้อตกลงสันติภาพซึ่งใช้เวลาเจรจาต่อรองนานถึง 4 ปีถูกคัดค้านโดยกลุ่มของอดีตประธานาธิบดีอัลวาโร อูริเบ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการยกโทษให้แก่พวกกบฏที่ก่ออาชญากรรมสงคราม แถมยังเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้มีตัวแทนในรัฐสภา แทนที่จะส่งพวกเขาเข้าไปชดใช้ความผิดในคุก
หลังจากข้อตกลงสันติภาพฉบับเดิมไม่ผ่านประชามติเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ด้วยคะแนนเสียงคัดค้านเกินครึ่งมาแบบเฉียดฉิว รัฐบาลและกบฏฟาร์กจึงเจรจาแก้ไขเนื้อหาอีกครั้ง และเสนอให้รัฐสภารับรอง แทนที่จะเสี่ยงทำประชามติเป็นครั้งที่สอง
กบฏ FARC ลุกขึ้นจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลตั้งแต่ปี 1964 เนื่องจากไม่พอใจปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ นักรบเหล่านี้แสวงหาเงินทุนจากการค้าโคเคนและจับตัวประกันเรียกค่าไถ่ โดยในช่วงปลายทศวรรษ 1990 กบฏฟาร์กมีสมาชิกมากถึง 17,000 คน และมีอิทธิพลควบคุมดินแดนส่วนใหญ่ในโคลอมเบีย
ทางการโคลอมเบียประเมินว่า สงครามซึ่งเกิดจากปมขัดแย้งเรื่องอุดมการณ์และดินแดนได้คร่าชีวิตประชาชนไปราว 260,000 คน โดยมีผู้สูญหายราว 45,000 คน และอีกราว 6.9 ล้านคนต้องพลัดถิ่นฐาน