เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ฮวน มานูเอล ซานโตส ได้ร่วมลงนาข้อตกลงสันติภาพฉบับที่ได้รับการแก้ไขแล้วกับหัวหน้ากลุ่มกบฏฟาร์ก (FARC) โรดริโก ลอนโดโน (Rodrigo Londono) ในวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) ในโรงละครประวัติศาสตร์ โคลอน กลางกรุงโบโกตา ท่ามกลางความคิดเห็นประชาชนที่ยังเห็นแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายในเรื่องนี้
อัลญาซีเราะห์ สื่อกาตาร์ เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ฮวน มานูเอล ซานโตสได้ประกาศขึ้นว่า “และแล้วเราได้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของความรุนแรง” หลังจากได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่ที่ถูกแก้ไขเป็นครั้งที่ 2 ที่มีความยาวร่วม 310หน้า เมื่อวานนี้ (24) ในขณะที่กล่าวชื่นชมความอดทนของผู้ร่วมเจรจาทั้งหมดที่สามารถนำไปสู่ข้อตกลงฉบับที่ดีกว่า
ในส่วนของหัวหน้ากลุ่มกบฏฟาร์ก (FARC) โรดริโก ลอนโดโน (Rodrigo Londono) ได้ประกาศว่า “อาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่ควรจะเกิดขึ้นในโคลอมเบียคือ “คำพูด” เท่านั้น” และเสริมต่อว่า แนวความคิดใหม่ได้ถูกนำเข้ามาซึ่งเป็นปัญหาที่หลายภาคส่วนในสังคมให้สนใจเสนอ
สื่อกาตาร์รายงานว่า และผู้นำโคลอมโบและหัวหน้ากบฏฟาร์กต่างได้จับมือท่ามกลางเสียงเชียร์ไปทั่วภายในโรงละครประวัติศาสตร์ โคลอน ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีลงนามกลางกรุงโบโกตา
อัลญะซีเราะห์รายงานต่อว่า พิธีที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) นั้นมีความเรียบง่ายกว่าพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพฉบับแรกที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายนล่าสุดในเมืองการ์ตาเฮนา (Cartagena) ที่ทั้งสองฝ่ายลงนามท่ามกลางสักขีพยานนานาชาติ รวมไปถึงเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ บัน คีมูน
และในข้อตกลงสันติภาพใหม่นี้มีถึง 50 จุดที่ถูกเปลี่ยนแปลง เพื่อทำให้เสียงต่อต้านที่ไม่เห็นด้วยที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีโคลอมเบียที่ยังทรงอำนาจ อัลวาโร อูริเบ (Alvaro Uribe) สงบลง โดยในส่วนที่เปลี่ยนแปลงนี้มีตั้งแต่ ระบบศาลต่างชาติทำการตัดสินคดีที่ก่อโดยกบฏฟาร์ก หรือรัฐบาลโคลอมเบีย ไปถึงพันธสัญญาจากกองกำลังติดอาวุธ ฟาร์ก ที่ประกาศจะยอมสละทรัพย์สินในกระบวนการเยียวยาเหยื่อ
อย่างไรก็ตาม อัลญะซีเราะห์ชี้ว่า แต่ทว่ากบฏฟาร์กไม่ยอมเล่นไปตามข้อเรียกร้องสุดโต่งของฝ่ายค้านโคลอมเบีย ในการจำคุกแกนนำกลุ่มกบฏ ที่ได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง และจำกัดบทบาทการเข้าร่วมการเมืองในอนาคต
และในการสำรวจความคิดเห็นสาธารณะในเรื่องข้อตกลงสันติภาพรอบใหม่นี้ พบว่าความเห็นสาธารณะยังแบ่งออกเป็นฝักฝ่าย ที่บางส่วนยังปักใจอยู่ในคดีสะเทือนขวัญที่กลุ่มกบฏฟาร์กเป็นผู้ก่อขึ้น เป็นต้นว่า การลักพาตัว และการค้ายาเสพติด ในขณะที่อีกฝ่ายต่างต้องการเห็นการลงนามสันติภาพกับกบฎฟาร์กเกิดขึ้น
แต่กระนั้นตัวเร่งในกระบวนการสันติภาพกลับเป็นความรุนแรงที่ก่อตัวในบริเวณขัดแย้งส่งผลทำให้โคลอมเบียต้องการคว้าข้อตกลงสันติภาพไว้อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว
โดยซานโตสได้แถลงทางสถานีโทรทัศน์โคลอมเบียในวันจันทร์(21 พ.ย)ว่า “ไม่มีเวลาที่จะต้องเสียไปอีกแล้ว” และกล่าวต่อว่า “มีชีวิตที่ต้องจบลง และอีกจำนวนมากที่ตกอยู่ในอันตราย”
ทั้งนี้ ข้อตกลงสันติภาพโคลอมเบีย-กบฏฟาร์กฉบับแก้ไขมีขึ้นเพื่อต้องการยุติความขัดแย้งนานร่วม 52 ปี ที่ทำให้มีผู้เสียใจไปมากกว่า 220,000 คน และต้องพลัดถิ่นอีกหลายล้านคน
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงสันติภาพฉบับแก้ไขได้ถูกส่งไปยังรัฐสภาโคลอมเบียอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะได้รับการลงมติให้รับหลังจากที่จะมีการอภิปรายในสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งประธานาธิบดีซานโตสและพันธมิตรกุมเสียงข้างมากอยู่ในรัฐสภาโคลอมเบีย
นอกจากนี้ ทั้งฝ่ายโบโกตาและกบฏฟาร์กต่างออกมาให้ความเห็นตรงกันว่าต้องการเห็นข้อตกลงสันติภาพฉบับนี้เกิดขึ้นก่อนข้อตกลงหยุดยิงจะถูกละเมิด