เอเอฟพี - รัฐบาลเยอรมนีในวันศุกร์ (30 ก.ย.) แจ้งกับเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำเบอร์ลิน ว่าความเห็นของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ที่เชื่อมโยงสงครามอาชญากรรมนองเลือดของเขา กับความพยายามกำจัดชาวยิวของฮิตเลอร์เป็น “สิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
ดูเตอร์เต วัย 71 ปี ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนพฤษภาคม หลังรณรงค์หาเสียงด้วยการให้สัญญากำจัดยาเสพติดให้พ้นไปจากสังคม โดยการลงมือสังหารผู้ต้องสงสัยพัวพันคดียาเสพติดไปแล้วหลายพันศพ
ในวันศุกร์ (30 ก.ย.) นายดูเตอร์เต แสดงความคิดเห็นเปรียบเทียบสงครามขจัดปัญหายาเสพติดของเขากับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ “ฮิตเลอร์ได้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวไป 3 ล้านคน ตอนนี้มีผู้ติดยาเสพติดในฟิลิปปินส์จำนวน 3 ล้านเช่นกัน ดังนั้นผมจะรู้สึกเป็นสุขที่ได้ฆ่าคนเหล่านี้” ดูเตอร์เตบอกกับผู้สื่อข่าวจากเมืองดาเวา บ้านเกิดเมืองนอนของเขา
“หากเยอรมันมีฮิตเลอร์” และได้กล่าวต่อว่า “ฟิลิปปินส์มี...” จากนั้นก็ใช้มือชี้ไปที่ตัวเองและบอกว่า “พวกคุณทราบไหมว่าเหยื่อทั้งหมดของผม ผมอยากเล่นงานพวกอาชญากรเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อยุติปัญหาของประเทศของเรา และป้องกันไม่ให้คนรุ่นหลังของพวกเราต้องพังพินาศ”
คำพูดของดูเตอร์เต ถือเป็นการยกตัวอย่างเปรียบเทียบที่แปลกประหลาด เพราะเป็นที่ทราบทั่วโลกว่า หากใครได้ถูกเปรียบว่าคล้ายกับฮิตเลอร์แล้ว ย่อมหมายความว่าผู้นั้นเป็นบุคคลเลวร้ายเหลือประมาณ ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันเคยถูกอดีตประธานาธิบดีเม็กซิโกว่าคล้ายฮิตเลอร์มาแล้ว
นาซีเยอรมันเข่นฆ่าชาวยิวไปกว่า 6 ล้านคนในช่วงสิ้นสุดลงครามโลกครั้งที่ 2
กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีระบุในถ้อยแถลงว่าพวกเขาได้เรียกทูตฟิลิปปินส์มายังกระทรวงเพื่อหารือประเด็นดังกล่าว “การเปรียบเทียบใดๆ กับการฆ่าล้างเผาพันธุ์ชาวยิว เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง” มาร์ติน เชเฟอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีบอกกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้และจะย้ำจุดยืนดังกล่าวอีกครั้งในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในเวลาต่อมา
เยอรมนี ชาติเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของยุโรป แสดงความกังวลใหญ่หลวงต่อการมาตรการปราบปรามของดูเตอร์เต ซึ่งในระยะเวลาเพียง 3 เดือนได้คร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 3,000 ศพและกำลังเสี่ยงกัดเซาะหลักนิติธรรมของหนึ่งในประเทศประชาธิปไตยที่ยุ่งเหยิงที่สุดของเอเชีย
ด้าน โรนัลด์ เลาเดอร์ ประธานสภายิวโลก ประณามความเห็นของนายดูเตอร์เตว่าน่ารังเกียจและเรียกร้องคำขอโทษจากปากของเขา “สิ่งที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตพูด ไม่ใช่แค่ขาดมนุษยธรรมอย่างแรงกล้า แต่มันยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขาดความเคารพต่อชีวิตมนุษย์ด้วย”