ไทเปไทมส์ - อาหารจานนี้เป็นเมนูเด็ดเรียกแขกจริง ๆ แต่เรียกแขกมารุมสวดยับก็ว่าได้ โดยเฉพาะจากสำนักงานตัวแทนอิสราเอลและเยอรมนีประจำไต้หวัน ซึ่งถึงกับช็อกและเสียใจอย่างมาก
ภัตตาคารอาหารอิตาเลียน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปั่นเฉียว (板橋) ในเมืองนิวไทเปซิตี้ เสิร์ฟอาหารมีชื่อว่า “สปาเก็ตตี้นาซีจงเจริญ” (納粹萬歲麵) ด้วยความหวังดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้มาลิ้มลองรสชาติ แต่กลับถูกสำนักงานตัวแทนของชาติทั้งสองสั่งสอนอบรมว่า การตั้งชื่อดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาวแดนมังกรน้อยบางคน รวมทั้งขาดความเข้าใจต่อเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ของนาซี
ตามรายงานของสถานีข่าวทีวีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา ( 17 ส.ค.) นั้น เห็นได้ว่า เฉา ยาซิน เจ้าของร้านเองก็ไม่คิดว่า ชื่ออาหาร ที่อุตสาห์สรรหามาตั้ง จะเรียกแขกได้ถึงขนาดนี้ โดยเธอชี้แจงว่า มิได้มีจุดประสงค์ ที่จะเน้นคำว่า “นาซี” เป็นการพิเศษใด ๆ เลย
เธอตั้งชื่อว่า “สปาเก็ตตี้นาซีจงเจริญ” เพราะสปาเก็ตตี้เส้นยาว ๆ นี้ มีเครื่องปรุงคือไส้กรอกเยอรมัน ที่นำมาผัดคลุกให้น่าอร่อยจนลืมไม่ลง ก็เท่านั้นเอง
ครั้นทีวีบีเอสไปสอบถามความรู้สึกของผู้คน เมื่อได้ยินคำว่า “นาซี” แล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ (The Holocaust) หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติถึงราว 11 ล้านคนอย่างน่าสยดสยองพรั่นพรึง ซึ่งรวมทั้งชาวยิวจำนวน 6 ล้านคน โดยกองทัพเยอรมันภายใต้คำบัญชาของจอมเผด็จการอดอล์ฟ ฮิตเล่อร์ และลูกสมุน
ทว่านี่มิใช่ครั้งแรกสำหรับภัตตาคารบนเกาะมังกรน้อย ที่การตั้งชื่ออาหาร ซึ่งไปโยงกับคำว่า นาซี จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต
มันเคยเป็นเรื่องมาแล้วหลายครั้ง
ย้อนไปเมื่อปีพ.ศ. 2543 ภัตตาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเน้นการขายจุดเด่นของร้านเป็นหลัก (theme restaurant) ในกรุงไทเป ได้ทิ้งเรื่องความสำคัญของสูตรรสชาติอาหารไว้ในห้องครัว แล้วหันไปคว้ารูปภาพค่ายกักกันนาซี อันแสนจะหฤโหดในความรู้สึกของมนุษย์มนาทั่วไป มาประดับบนฝาผนังหลายรูป พร้อมกับประดับตกแต่งภายในร้าน ที่ชวนให้รำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น รวมทั้งสลักคำว่า ห้องอบแก๊ส เหนือประตูห้องน้ำ
ทว่าสุดท้ายเจ้าของร้านก็ต้องออกมายอมรับผิดว่า ข้าพเจ้าทำไปด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และปลดรูปลงจากฝาผนังทั้งหมด
ต่อมาในเดือนต.ค ปีพ.ศ 2554 บริษัทเพรสซิเดนต์ เชน สโตร์ คอร์ป (President Chain Store Corp) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลเว่น ( 7-Eleven) ก็ประสบเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน โดยทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว ต้องโละสินค้า ที่โชว์การ์ตูนรูปลักษณ์ของฮิตเล่อร์ออกไปจากร้านแต่โดยดี
มาร์ก ลี บล็อกเกอร์ชาวไต้หวัน ซึ่งโด่งดังจากผลงานการ์ตูนแซวพวกบิ๊กบอสทั้งหลายแสดงความเห็นในตอนนั้นว่า ภาพการ์ตูนบนสินค้าในร้านเซเว่น-อีเลเว่นได้แรงบันดาลใจจากฮิตเล่อร์แน่ ๆ อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า ทางร้านไม่มีเจตนายกย่องทัศนะหรืออุดมการณ์ของนาซีแต่ประการใด