เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดหลายระลอกทั่วซีเรียที่อ้างความรับผิดชอบโดยกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เมื่อวันจันทร์ (5 ก.ย.) คร่าชีวิตผู้คนหลายสิบศพ ขณะที่วอชิงตันและมอสโกล้มเหลวในความพยายามบรรลุข้อตกลงจัดการกับบ่อเกิดความรุนแรงของประเทศแห่งนี้
เหตุระเบิดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัฐบาล คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 48 ศพ และบาดเจ็บหลายสิบคน หนึ่งวันหลังจากนักรบญิฮาดกลุ่มนี้สูญเสียพื้นที่ยึดครองสุดท้ายตามแนวชายแดนซีเรียและตุรกี
ในจีน ประเทศที่เหล่ามหาอำนาจของโลกกำลังรวมตัวกันเพื่อร่วมประชุมจี20 ประธานาธิบดี บารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ได้มีการพบปะพูดคุยกันและมีจุดร่วมบางอย่างในประเด็นซีเรีย
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองชาติมหาอำนาจล้มเหลวในการก่อข้อตกลงใดๆ สำหรับคลี่คลายความรุนแรงในซีเรีย ที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 290,000 ศพ และพลเมืองกว่าครึ่งต้องไร้ถิ่นฐานนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011
เหตุนองเลือดล่าสุดเป็นผลของการโจมตีหลายระลอก โดยจุดที่พบความสูญเสียมากที่สุดได้แก่เหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนที่จังหวัดตาร์ตุส ป้อมปราการของรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 35 ศพ และบาดเจ็บ 43 คน
รายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐระบุว่า เป้าหมายของการโจมตีคือสะพานอาร์ซูนา ที่เมืองตาร์ตุส เมืองเอกของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกัน “ระเบิดลูกแรกเป็นคาร์บอมบ์และลูกสองเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายที่จุดชนวนเข็มขัดระเบิดตอนที่ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ”
สำหรับเมืองตาร์ตุส ส่วนใหญ่แล้วรอดพ้นจากสถานการณ์ความรุนแรงเลวร้ายของสงครามกลางเมืองซีเรียที่มีจุดเริ่มต้นจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาล และกลายเป็นแหล่งลี้ภัยของชาวซีเรียจำนวนมากที่หลบหนีการสู้รบ
ในเมืองฮาซาเคห์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มือระเบิดฆ่าตัวตายใช้รถจักรยานยนต์โจมตีสังหารเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงชาวเคิร์ด 6 คน และพลเมือง 2 ราย ทั้งนี้ เมืองดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชาวเคิร์ด แต่ก็มีกำลังพลของรัฐบาลปรากฏตัวอยู่บ้าง
ที่เมืองฮอมส์ เป้าหมายคือย่านอัล-ซาห์ร โดยคนร้ายใช้คาร์บอมบ์ฆ่าตัวตายโจมตีจุดตรวจแห่งหนึ่งบริเวณทางเข้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย นอกจากนี้แล้วยังได้เกิดเหตุโจมตีบนถนนอัล-ซาบูรา ทางตะวันตกของกรุงดามัสกัส ที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 คน
สำนักข่าวอามัก เครือข่ายของไอเอสเผยแพร่ถ้อยแถลงอ้างว่าทางกลุ่มอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีมือระเบิดฆ่าตัวตายพร้อมเพรียงกันเหล่านั้น ขณะที่มันเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังกองกำลังเคิร์ดและกบฏพันธมิตรเข้ายึดพื้นที่สุดท้ายตามแนวชายแดนตุรกี-ซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของไอเอส
ตุรกีเริ่มต้นปฏิบัติการภายในซีเรียเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม โดยเล็งเป้าหมายทั้งไอเอสและกองกำลังเคิร์ดซีเรีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในการสู้รบกับกลุ่มญิฮาดในซีเรีย
ปฏิบัติการดังกล่าวสร้างความกระอักกระอ่วนใจแก่สหรัฐฯ เนื่องจากพันธมิตรทั้งสองต่างหันมาสู้รบกันเองในสมรภูมิซีเรีย
ทั้งนี้ ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาเผยในวันจันทร์ (5 ก.ย.) ว่าทูตวอชิงตันประจำพันธมิตรนานาชาติต่อต้านไอเอสที่นำโดยสหรัฐฯ ในซีเรียและตุรกี ได้หารือกับกองกำลังชาวเคิร์ดและเจ้าหน้าที่ตุรกีเพื่อหาทางออกในประเด็นนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ประธานาธิบดีของตุรกีเมื่อวันจันทร์ (5 ก.ย.) เผยว่า เขากำลังทำงานร่วมกับรัสเซียและสหรัฐฯ เพื่อประกาศเขตห้ามบินบริเวณทางเหนือของซีเรีย ข้อเสนอที่เคยล้มเหลวมาแล้วในอดีต
วอชิงตันสนับสนุนการจลาจลลุกฮือโค่นนายอัสซาด แต่กำลังทำงานร่วมกับมอสโก พันธมิตรหลักของผู้นำซีเรีย ในข้อตกลงจำกัดการนองเลือด เบื้องต้นมีความหวังว่าอาจมีการแถลงข้อตกลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่ามันมีปัญหาติดขัดหลังจากรัสเซียกลับลำ
แม้ว่าจะล้มเหลว แต่โอบามาเผยในวันจันทร์ (5 ก.ย.) ว่าระหว่างการพูดคุยกับปูตินในประเด็นซีเรีย ได้มีการสนทนาอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของข้อตกลงยุติความเป็นปรปักษ์ที่แท้จริง ขณะที่ปูตินก็บอกว่ารู้สึกถึงจุดยืนร่วมบางอย่างระหว่างสองฝ่ายและความตระหนักถึงสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในซีเรีย
เขาบอกว่าข้อตกลงกับวอชิงตันอาจเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดที่แน่ชัด โดยระบุเพียงว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียกำลังทำงานเกี่ยวกับข้อตกลงในเบื้องต้นบางอย่าง
อนึ่ง คาดหมายว่านายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย จะเดินหน้าหารือกันต่อในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้