xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : “ศาลสูงอิรัก”ตัดสิน “ขั้วการเมืองอัล-มาลิกี” มีสิทธิ์ตั้งรบ. ชุดใหม่ - สหรัฐฯหาตัวช่วย “ป้อนอาวุธให้เคิร์ดสู้กับ IS”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(บน) นายกรัฐมนตรีอิรัก นูรี อัล-มาลิกี (ล่าง) ประธานาธิบดีอิรัก ฟูอัด มัสซูม
เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอิรัก นูรี อัล-มาลิกี ประกาศจะนำ ฟูอัด มัสซูม  ประธานาธิบดีอิรักขึ้นสู่ศาลฐานละเมิดรัฐธรรมนูญอิรักในวันจันทร์(11) แต่สหรัฐฯเดินหน้าออกแถลงการณ์ประกาศสนับสนุนมัสซูมให้ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ในขณะที่ศาลสูงอิรักได้ออกคำตัดสินชี้ขาดว่า ขั้วการเมืองของอัล-มาลิกีใหญ่ที่สุดในรัฐสภาและประธานาธิบดีอิรักต้องสั่งให้จัดตั้งรัฐบาล และล่าสุดสหรัฐฯจัดหาอาวุธให้กองกำลังเคิร์ดเพื่อสู้กับกลุ่ม IS

สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(11)ศาลสูงอิรักได้ออกคำพิพากษาว่า กลุ่มขั้วการเมืองของนายกรัฐมนตรีอิรัก นูรี อัล-มาลิกี นั้นใหญ่ที่สุดในรัฐสภาอิรัก สถานีข่าวโทรทัศน์ของรัฐบาลอิรักรายงาน ส่งผลให้เขามีสิทธิ์ได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยอย่างค่อนข้างแน่ชัด และทำให้ฟูอัด มัสซูม ประธานาธิบดีอิรักชาวเคิร์ด ต้องออกคำสั่งให้ อัล-มาลิกีจัดตั้งรัฐบาลขึ้นในที่สุด

โดยก่อนหน้านี้ในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ อัล-มาลิกี มุสลิมชีอะห์ได้วิพากษ์มัสซูมถึงการไม่เข้ามาแทรกแซง หลังจากรัฐสภาอิรักล่มในการเสนอให้อัล-มาลิกีเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3

ทั้งนี้อัล-มาลิกีเผชิญหน้ากับข้อเรียกร้องจากบรรดาชาติตะวันตกให้ลงจากตำแหน่งท่ามกลางวิกฤตการลุกคืบของกลุ่มกบฎ IS ที่ขยายอิทธิพลในทางตอนเหนือของอิรัก

ด้านสหรัฐฯได้ออกแถลงการณ์ เร่งเร้าให้อิรักเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลผสม และแถลงให้การสนับสนุนมัสซูม “สหรัฐฯยังคงจับตาสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด และยืนยันที่จะให้การสนับสนุนประธานาธิบดีอิรัก มัสซูม ในการทำหน้าที่ต่อไปเพื่อเป็นหลักประกันในรัฐธรรมนูญของอิรัก และนอกจากนี้ยังคงเป็นอีกครั้งที่สหรัฐฯยังขอยืนยันที่จะสนับสนุนกระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีอิรักคนใหม่ที่สามารถเป็นตัวแทนความต้องการของประชาชนอิรักโดยผ่านการลงประชามติ และปกครองประเทศด้วยการกระจายอำนาจสู่ทุกหมู่เหล่า”

ในขณะเดียวกันก่อนที่อัล-มาลิกีจะออกแถลงการณ์ หน่วยกองกำลังที่ให้การสนับสนุนได้ออกประจำจุดต่างๆเตรียมความพร้อมทั่วกรุงแบกแดด และชาวเคิร์ดในอิรักได้ร้องขอนานาชาติให้ส่งความช่วยเหลือด้านทหารเพื่อจัดการกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ IS ก่อนหน้านี้ โดยล่าสุดสหรัฐฯได้โจมตีทางอากาศกลุ่ม IS ถึง 4 ครั้งใกล้เมืองเออร์บิล (Irbil)เมืองหลวงของเคิร์ด ทางตอนเหนือของอิรัก

ทางแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เคิร์ดให้สัมภาษณ์ว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯเกิดขึ้นในนิเนเวห์ ( Nineveh)  และช่วยเหลือให้กองกำลังรบชาวเคิร์ดสามารถยึดเมืองจีเวอร์ (Gwer) และเมืองMakhmur กลับคืนมาได้หลังจากสู้รบอย่างหนักในวันอาทิตย์(10) และถือเป็นครั้งแรกที่กองกำลังชาวเคิร์ดสามารถยึดเมืองกลับคืนได้นับตั้งแต่สหรัฐฯเริ่มโจมตีทางอากาศในวันพฤหัสบดี(7)

ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ MSNBCว่า การโจมตีทางอากาศในวันอาทิตย์(10)ยาวนานถึง 5 ชม.เพื่อคุ้มครองกองกำลังเคิร์ด และเพื่อสะกัดการรุกคืบของ IS ไม่ให้เดินทางเข้าใกล้สถานกงสุลสหรัฐฯในเออร์บิล ซึ่งถึงแม้จะมีการอพยพเจ้าหน้าที่ออกไปบางส่วนแต่ยังไม่มีคำสั่งปิดสถานกงสุลหรือย้ายออกไปแต่อย่างใด นอกจากนี้สหรัฐฯยังเดินหน้าภารกิจทางมนุษยธรรมโดยการหย่อนน้ำและอาหาร สามารถส่งน้ำสะอาดเกือบ 4,400 แกลอน และอาหารจำนวนมากกว่า 22,000  กล่องให้ชนกลุ่มน้อยยาซิดิส

และอัล-มาลิกียังกล่าวต่อไปว่า ในวันนี้(11)จะฟ้องมัสซูมต่อศาลอิรักในข้อหา “ละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญอิรักอย่างชัดเจนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และเอื้อต่อบางกลุ่มในอิรักเพื่อให้มีสิทธิเหนือกว่าประชาชนอิรักทั้งปวง”

“มัสซูมได้ละเมิดรัฐธรรมนูญในอิรักถึง 2 ครั้ง โดยการยืดเส้นตายในวันที่ 7 สิงหาคม เพื่อให้มีโอกาสรวบรวมขั้วการเมืองขนาดใหญ่กว่าของนายกรัฐมนตรีอิรักเพื่อปิดกั้นไม่ให้เสนอชื่ออัล-มาลิกีขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี และยังละเมิดรัฐธรรมนูญอิรักอีกครั้ง โดยการไม่ออกคำสั่งให้หัวหน้าขั้วการเมืองใหญ่ที่สุดประกาศจัดตั้งรัฐบาล” อัล-มาลิกีแถลง และย้ำว่า “ทัศนคติเช่นนี้ส่อให้เห็นถึง “การทำรัฐประหารทางรัฐธรรมนูญและกระบวนการทางการเมืองโดยระบบประชาธิปไตยและส่วนกลาง ซึ่งการกระทำครั้งนี้ของประธานาธิบดีอิรักจะมีผลลบต่อเอกภาพโดยรวม องค์รัฐาธิปัตย์ และความเป็นเอกราชของอิรัก ซึ่งนำกระบวนทางการเมืองเข้าสู่อุโมงค์ที่มืดมิด”

รอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังชีอะห์และหน่วยความมั่นคงอิรักที่จงรักภักดีต่ออัล-มาลิกีปรากฎตัวให้เห็นในบริเวณจุดสำคัญทั่วกรุงแบกแดด แต่ไม่มีรายงานความรุนแรงเกิดขึ้น

นอกจากนี้สื่อ RTของรัสเซียรายงานในวันจันทร์(11)ว่า สหรัฐฯเริ่มจัดหาอาวุธทันสมัยให้กับกองกำลังชาวเคิร์ดเพื่อสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธ IS ที่ถึงแม้ในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯยืนยันมาตลอดว่า มีนโยบายจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับรัฐบาลอิรักเท่านั้น แต่ในขณะนี้นโยบายเปลี่ยนไปแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับเอพี

แต่อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวสหรัฐฯไม่เปิดเผยว่า อาวุธประเภทใดที่จะส่งให้กองกำลังเคิร์ด และหน่วยงานใดที่จะเป็นผู้ส่ง โดยหนึ่งในแหล่งข่าวแย้มว่า “ไม่ใช่เพนตากอน” ซึ่งเป็นที่เข้าใจในอดีตว่า CIA เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้อนอาวุธให้กองกำลังต่างชาติในสงครามสู้รบตามสมรภูมิต่างๆ และที่ผ่านมากองกำลังเคิร์ดได้ประกาศร้องขอว่า พวกเขาไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการสู้รบกับ IS เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มมุสลิมสุหนี่ที่ได้ยึดยุทธโธปกรณ์จากกองทัพอิรักที่ล้วนทันสมัยและมีประสิทธิภาพจากสหรัฐฯในเดือนมิถุนายน

ก่อนหน้านี้กองทัพอิรักได้เคยมอบอาวุธให้กับกองกำลังเคิร์ดเพื่อป้องกันการรุกคืบของ IS เข้าสู่กรุงแบกแดด และการส่งมอบได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
(ซ้ายบน) ภาพจากเครื่องบินลำเลียง C130 ของอังกฤษ และ (กลางบนและขวาบน) ภาพการอพยพของชาวยาซิดิส





กองบัญชาการรบของเคิร์ดที่มีนายทหารหญิงระดับสูงนั่งอยู่ในที่นั้นด้วย ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าสหรัฐฯเริ่มติดอาวุธให้กองกำลังตามที่ร้องขอ
ทหารกองกำลังเคิร์ดขนศพกองกำลังติดอาวุธที่เสียชีวิต

อดีตทหารกองกำลังเคิร์ดที่กลับเข้ามาร่วมสู้รบใหม่อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น