รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในวันศุกร์ (2 ก.ย.) เห็นพ้องจัดทำร่างข้อเสนอในปีนี้เพื่อยุติข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสองประเทศ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมีปัญหามาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี
ข้อพิพาทนี้มีต้นตอจากการตัดสินใจของสหภาพโซเวียตในวันท้าย ๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับการเข้ายึดหมู่เกาะแห่งนี้ ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า นอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรีส์ ส่วนรัสเซียเรียกว่า เซาเทิร์น คูริลส์ ที่ทางโตเกียวอ้างว่าเป็นอาณาเขตอธิปไตยของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทางมอสโกปฏิเสธส่งมอบหมู่เกาะดังกล่าวคืน
ในการหารือรอบนอกเวทีสัมมนาทางธุรกิจที่เมืองวลาดวอสตอฟ ตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของรัสเซีย ทั้งสองผู้นำเห็นพ้องว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าทำงานในร่างข้อตกลง ที่นายอาเบะ และ ปูติน จะหยิบยกมาพิจารณา ยามที่ นายปูติน มีกำหนดเดินทางเยือนญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม
แม้รัสเซียและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้าที่แข็งแกร่ง แต่ข้อพิพาทนี้ได้ขัดขวางพวกเขาจากการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการเพื่อยุติความเป็นปกปักในสงครามโลกครั้งที่ 2
“โดยเฉพาะในเรื่องของสนธิสัญญาสันติภาพ เราสองคนได้มีการหารือกันในเชิงลึก” อาเบะบอกกับผู้สื่อข่าวหลังพบปะกับปูติน พร้อมระบุว่า การพูดคุยครั้งนี้ทำให้เขาเชื่อว่าทางออกของข้อพิพาทบนพื้นฐานการไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันได้ชัดเจนขึ้นแล้ว
นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส สรุปให้ผู้สื่อข่าวฟังเกี่ยวกับผลของการหารือ ว่า เขาพบความตั้งใจครั้งใหม่จากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน “แน่นอนว่าทั้งสองผู้นำได้หารือเกี่ยวกับประเด็นสนธิสัญญาสันติภาพ”
ข้อตกลงเกี่ยวกับหมู่เกาะจะช่วยส่งเสริมการลงทุนของญี่ปุ่นในรัสเซีย ในช่วงเวลาที่มอสโกกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจากราคาน้ำมันโลกดำดิ่ง และมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ในส่วนของญี่ปุ่นเอง ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น จะช่วยให้มอสโกและโตเกียว สามารถถ่วงดุลจีน ที่กำลังแผ่อิทธิพลขยายวงกว้างมากขึ้นในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม การยอมประนีประนอมใด ๆ ของนายปูตินเกี่ยวกับหมู่เกาะ อาจก่อความเสี่ยงทางการเมืองแก่ประธานาธิบดีรายนี้ โดยมันอาจทำลายภาพลักษณ์ของเขาในประเทศ ในฐาะผู้นำที่ยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ชาติยามที่เผชิญการรุกรานจากภายนอก