เอเอฟพี - อัยการไต้หวันตั้งข้อหาเอาผิดต่อนายทหารเรือที่เผลอยิงขีปนาวุธมุ่งสู่จีนแผ่นดินใหญ่ ระหว่างการฝึกซ้อมเมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 2 คนซึ่งมีส่วนต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุร้ายแรงดังกล่าว วันนี้ (29 ส.ค.)
ความผิดพลาดในการยิงขีปนาวุธเร็วเหนือเสียง สยงเฟิง 3 (Hsiung-feng III) ซึ่งได้ฉายาว่า “ผู้พิฆาตเรือบรรทุกเครื่องบิน” (aircraft carrier killer) สร้างความไม่พอใจต่อจีน ทั้งยังบั่นทอนภาพลักษณ์ของกองทัพไต้หวันอย่างรุนแรง และสร้างความอับอายต่อประธานาธิบดีมือใหม่อย่าง ไช่ อิง-เหวิน
มีรายงานข่าวว่า ขีปนาวุธลูกนี้ยิงไปถูกเรือประมงสัญชาติไต้หวัน ส่งผลให้กัปตันเรือเสียชีวิต และมีลูกเรือบาดเจ็บอีก 3 คน
เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาดทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ ไช่ ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำไต้หวันในเดือน พ.ค. และนอกจากเสียงประณามจากปักกิ่งแล้ว ชาวไต้หวันเองก็รู้สึกรับไม่ได้เช่นกัน
อัยการเมืองเกาชยุง (Kaoshiung) แถลงวันนี้ (29) ว่า เกา เจีย-ชุน (Kao Chia-Chun) นายทหารเรือต้นเหตุ ถูกปล่อยให้ควบคุมขีปนาวุธอยู่เพียงลำพังนานถึง 7 นาที
เกา ตัดสินใจหัดใช้ระบบดังกล่าวโดยไม่มีผู้บังคับบัญชาอยู่ด้วย ทั้งที่ขีปนาวุธอยู่ในโหมด “โจมตี”
“เขาไม่ได้สังเกตว่าขีปนาวุธหมายเลข 3 และ 4 อยู่ในโหมดยิงด้วยกระสุนจริง และได้กดปุ่มสั่งการ ‘อนุญาตให้ยิง’, ‘ยิงขีปนาวุธ’ และ ‘ยืนยัน’” คำแถลงจากอัยการระบุ
ขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งแหวกอากาศออกไปเป็นเวลาราว 2 นาที และทำการค้นหาเป้าหมายโดยอัตโนมัติ ก่อนจะล็อกเป้าไปที่เรือประมงลำหนึ่งซึ่งหาปลาอยู่นอกชายฝั่งเกาะเผิงหู (Penghu)
เกา ถูกตั้งข้อหาละเลยจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย รวมถึงสร้างความเสียหายแก่อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ส่วนพันจ่าเอก เฉิน หมิง-ซิ่ว (Chen Ming-Hsiu) ผู้บังคับบัญชาของ เกา และเรือโท ซู ป๋อ-เว่ย (Hsu Po-Wei) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลระบบอาวุธ ถูกตั้งข้อหาละเลยหน้าที่จนก่อให้เกิดหายนะขึ้น
อัยการชี้ว่า เฉิน ควรจะอยู่กำกับดูแล เกา ตลอดเวลา แต่กลับปล่อยให้ลูกน้องอยู่ตามลำพังจนเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างไปชมการซ้อมรบประจำปีซึ่งจัดขึ้นที่มณฑลผิงตง โดยเป็นการจำลองสถานการณ์ที่ไต้หวันถูกจีนรุกราน ประธานาธิบดี ไช่ ได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมไปร่างแผนยุทธศาสตร์มาใหม่ รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ
ไต้หวันปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมือง แต่ทางการจีนยังถือว่าเกาะแห่งนี้เป็น “มณฑล” หนึ่งที่รอการผนวกรวมเข้ากับแผ่นดินใหญ่ในอนาคต แม้จะต้องใช้กำลังบังคับก็ตาม
สถานการณ์บริเวณช่องแคบไต้หวันร้อนระอุขึ้นหลังจากที่ ไช่ อิงเหวิน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ของไทเป เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่พอใจจุดยืนของเธอซึ่งต้องการให้ไต้หวันเป็นรัฐเอกราชอย่างสมบูรณ์
ปักกิ่งได้ประกาศระงับกลไกการสื่อสารอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลไต้หวันไปเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงที่รัฐบาลไต้หวันชุดใหม่ปฏิเสธหลักการ “จีนเดียว” (One China)
พรรคคอมมิวนิสต์จีน และพรรคก๊กมินตั๋งของไต้หวัน ได้บรรลุ “ฉันทามติ” เมื่อปี 1992 ซึ่งระบุว่าจีนมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น โดยแต่ละฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะตีความความหมายนั้นในแบบของตัวเอง
กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า เวลานี้กองทัพจีนได้หันขีปนาวุธกว่า 1,500 ลูกมุ่งหน้ามายังเกาะไต้หวัน
จีนเคยยิงขีปนาวุธไปตกในทะเลนอกเกาะไต้หวันเมื่อปี 1995 และ 1996 เพื่อข่มขู่ไม่ให้พลเมืองที่นั่นออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีตามระบอบประชาธิปไตยครั้งแรกในประวัติศาสตร์
เหตุไต้หวันยิงขีปนาวุธผิดพลาดเมื่อเดือนที่แล้วยังตรงกับวันครบรอบ 95 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน