เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – เมื่อวานนี้(15 ส.ค)พอล มานาฟอร์ต(Paul Manafort)ประธานการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ของโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาปฎิเสธการรายงานพิเศษของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ที่ได้รายงานว่ามานาฟอร์ตมีรายชื่อปรากฎบนบัญชีของพรรคการเมืองยูเครนสนับสนุนรัสเซียของอดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิชถึง 22 ครั้งตั้งแต่ปี่ 2007-2012 ซึ่งมีรายงานว่าได้รับเงินสนับสนุนจำนวน12.7 ล้านดอลลาร์ และพบมีชื่อร่วมดีลการค้ากับมหาเศรษฐีโอลิการ์ชรัสเซีย โอเลก เดริปาสคา(Oleg Deripaska) คนใกล้ชิดประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในข้อตกลงซื้อขายทรัพย์สินบริษัทเดอะ แบล็กซีเคเบิล( the Black Sea Cable) ที่มีบริษัทออฟชอร์เชลคอมปานีจดทะเบียนแหล่งหนีภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานล่าสุดว่า ดูเหมือนโดนัลด์ ทรัมป์ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันต้องตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้งในวันจันทร์(15 ส.ค)ถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัวเขาและรัสเซียที่มีชื่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อทางเจ้าหน้าที่ยูเครนได้ออกมายืนยันว่า พอล มานาฟอร์ต(Paul Manafort)ประธานการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ของเขาถูกพบมีรายชื่อปรากฎบนสมุดบัญชีของอดีตพรรคยูเครนของอดีตประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ที่ระบุว่ามานาฟอร์ตมีชื่อรับเงินสนับสนุนจำนวน 12.7 ล้านดอลลาร์ จากการรายงานครั้งแรกของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สวันอาทิตย์(14 ส.ค)
ทั้งนี้ในรายละเอียดพบว่า บนการบันทึกของสมุดบัญชีเล่มนี้ได้ระบุถึงเงินจำนวนหลายสิบล้านดอลลาร์ที่ถูกจ่ายแบบลับๆให้กับบรรดากลุ่มนักการเมือง และผู้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งยูเครน ซึ่งพบว่าจากรายชื่อทั้งหมด มีรายชื่อของมานาฟอร์ตปรากฎเป็นผู้รับเงินในช่วงระหว่างพฤศจิกายน 2007 ไปจนถึงตุลาคม 2012 โดยสื่อธุรกิจระบุว่า พบว่า มานาฟอร์ตได้เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับพรรคการเมือง Party of Regions ที่นำโดยยานูโควิช แต่อย่างไรก็ตามสำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครน (National Anti-Corruption Bureau)ได้เตือนว่า ทางหน่วยงานไม่ยืนยันว่า ประธานทีมหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของทรัมป์นั้น “ได้รับเงินไปจริง”
เมื่อวานนี้(15 ส.ค)มานาฟอร์ตได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้การรายงานพิเศษของนิวยอร์กไทม์สว่า “เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่สามารถค้นพบได้ ไร้สาระ และเป็นเรื่องเหลือเชื่อ” และชายผู้นี้ยังกล่าวยืนยันอีกว่า “ไม่เคยรับเงินผ่านทางประตูหลังแม้แต่ครั้งเดียว และผมไม่เคยทำงานให้รัฐบาลยูเครน หรือกับรัสเซีย”
โดยมานาฟอร์ตอ้างว่า งานของเขาในยูเครนสิ้นสุดลงหลังจากการจัดเลือกตั้งทั่วไปในยูเครนเมื่อตุลาคม 2014 และนอกจากนี้ ริชาร์ด เอ ไฮบี(Richard A Hibey) ทนายความของมานาฟอร์ตยังได้ยืนยันกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า “ลูกความของเขาไม่ได้รับเงินใดๆ” เหมือนอย่างเช่นเจ้าหน้าที่ต่อต้านการคอรัปชันยูเครนได้ระบุ
สำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครนได้ออกแถลงการณ์ยืนยันกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส สื่อธุรกิจ ในวันจันทร์(15 ส.ค)ว่า “ทางเราสามารถยืนยันได้ว่า พอล มานาฟอร์ต ถูกพบรวมอยู่ในบันทึกรายชื่อที่เรียกว่า “บัญชีดำของพรรค Party of Regions” ที่กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของทางยูเครนในเวลานี้”
และแถลงการณ์ของสำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครนยังกล่าวต่ออีกว่า “อ้างอิงจากข้อมูลในสมุดบัญชีนี้ พบว่าจำนวนตัวเลขการจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับบุคลคลนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2007 มีจำนวนมากกว่า 12.7 ดอลลาร์ และวันที่สุดท้ายซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณมานาฟอร์ตเกิดขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม 2012”
แต่อย่างไรก็ตามทางยูเครนที่ย้ำว่า เนื่องมาจากอยู่ในระหว่างการสอบสวนทำให้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากกว่านี้ แต่ยังชี้ว่า “การปรากฏชื่อของพอล มานาฟอร์ตนั้นไม่ได้หมายความว่า ชายผู้นี้จะรับเงินไปจริง เนื่องมาจากลายเซ็นที่ปรากฎบนส่วนของผู้รับเงินอาจจะเป็นลายเซ็นของคนอื่นก็เป็นได้”
สื่อธุรกิจรายงานเพิ่มเติมต่อว่า สำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครนถูกก่อตั้งขึ้นในปีที่ผ่านมาในฐานะหน่วยงานการเมืองอิสระ ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯและสหภาพยุโรป ซึ่งถูกกำหนดให้แชร์ข้อมูลกับหน่วยงาน FBI สหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเคียฟปราบปรามการคอรัปชันที่ลุกลามระบาดไปทั่วประเทศ
โดยโฆษกของสำนักงานปราปรามคอรัปชันยูเครนได้ออกมาแถลงว่า ทางหน่วยงานได้เริ่มต้นสอบสวนบัญชีลับพรรคการเมืองของอดีตประธานาธิบดียูเครนยานูโควิชตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังพบว่า อดีตสมาชิกที่อยู่ในทีมงานของมานาฟอร์ตที่ได้ให้คำที่ปรึกษากับยานูโควิชและพรรคการเมืองของเขา ได้ปฎิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่เคยเห็นบันทึกรับจ่ายฉบับนี้มาก่อน
แต่อย่างไรก็ตามสื่อยูเครนและสื่อสหรัฐฯต่างรายงานว่า ดูเหมือนมานาฟอร์ตยังคงให้คำปรึกษากับกลุ่มนักการเมืองใกล้ชิดของยานูโควิชต่อไป ที่ได้รวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มฝ่ายค้านยูเครน ซึ่งถือเป็นกลุ่มการเมืองใหม่หลังจากเกิดการประท้วงไมดานขับไล่ยานูโควิชสำเร็จ
และจากการรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ยังพบว่า สำนักงานที่มานาฟอร์ตและทีมงานใช้ ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสเอกราชไมดานกลางกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการโค่นรัฐบาลยานุโควิช โดยพบว่าประธานการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นี้ได้ใช้สำนักงานแห่งนี้ในช่วงระหว่างที่เขายังคงทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับยานูโควิช และอดีตพรรครัฐบาลยูเครน ซึ่งพบว่าทั้งเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน และของใช้ส่วนตัวของมานาฟอร์ตยังคงถูกเก็บอยู่ที่นั่นจนกระทั่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
และสมุดบัญชีดำลับที่ทางสำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครนพบนั้น พบว่าเป็นการจดบันทึกด้วยลายมือ และได้ระบุชื่อของมานาฟอร์ต รวมไปถึงจำนวนเงิน 12.7 ล้านดอลลาร์ปรากฏ นอกจากนี้ในการสอบสวนของอัยการอาชญากรรมยูเครนในคดีพิเศษ ที่กำลังสอบสวนคดีกลุ่มบริษัทออฟชอร์เชลคอมปานี(offshor shell company)ซึ่งเป็นบริษัทตั้งขึ้นเพื่อใช้ชื่อบังหน้าในการช่วยจัดการด้านการเงินให้กับกลุ่มคนวงในของยานูโควิช
ทั้งนี้พบว่ากลุ่มบริษัทออฟชอร์เหล่านี้ถูกจดทะเบียนขึ้นที่บริติช เวอร์จิน ไอแลนด์ส รวมไปถึงเบลิซ และเซเชลส์(Seychelles) และหนึ่งในบริษัทออฟชอร์เชลคอมปานีที่พรรคพวกของยานูโควิชใช้บริการมากที่สุดคือ มิลทาวน์ คอร์โปเรต เซอร์วิส แอลทีดี( Milltown Corporate Services Ltd) หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงาน
โดยสื่อสหรัฐฯชี้ว่า จากจำนวนธุรกรรมจำนวนหลายร้อยครั้งที่ทางบริษัทออฟชอร์เชลคอมปานีได้กระทำ พบว่ามีข้อตกลงมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ในสัญญาการซื้อขายทรัพย์สินบริษัทเคเบิลทีวียูเครน เดอะ แบล็กซีเคเบิล( the Black Sea Cable)ปรากฎให้กับพันธมิตรทางการค้าที่ประกอบไปด้วยพอล มานาฟอร์ต และมหาเศรษฐีโอลิการ์ชรัสเซีย โอเลก เดริปาสคา(Oleg Deripaska) คนสนิทใกล้ชิดของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน
แต่อย่างไรก็ตาม ทนายความของมานาฟอร์ตได้กล่าวโต้ถึงดีลธุรกิจชิ้นนี้ว่า เดริปาสคาเป็นผู้ตรวจสอบรายละเอียดในร่างข้อตกลงสุดท้ายของการซื้อขาย แต่ปฎิเสธว่ามานาฟอร์ตได้รับเงินค่าจ้างในการจัดการจากบริษัท Pericles ที่เศรษฐีโอลิการ์ชรัสเซียผู้นี้ได้ใช้เงินลงทุนไปถึง 18.9 ล้านดอลลาร์ในปี 2008 เพื่อที่จะซื้อกิจการเดอะ แบล็กซีเคเบิล แต่ทว่าแผนการซื้อ และรวมไปถึงใครจะได้ทรัพย์สินของเดอะ แบล็กซีเคเบิลไปยังคงข้อโต้เถียงระหว่างเดริปาสคาและมานาฟอร์ต
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับจำนวนเงินที่ได้รับจากดีลเดอะแบล็กซีเคเบิล ไฮบี ทนายความของมานาฟอร์ตยอมรับว่า ริก เกตส์(Rick Gates) หนึ่งในทีมงานของมานาฟอร์ต และปัจจุบันทำงานให้กับทีมการหาเสียงของทรัมป์ “ได้รับเงินตอบแทนจำนวนหนึ่งที่ไม่มากนัก”
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สยังระบุว่า การจ่ายเงินที่มีชื่อของมานาฟอร์ตเข้ามาเกี่ยวข้องไม่เคยได้รับการรายงานต่อยูเครนมาก่อน จากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครน และสื่อสหรัฐฯยังรายงานว่า พบว่ามานาฟอร์ตนั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อยานูโควิช โดยก่อนที่อดีตประธานาธิบดียูเครนผู้นี้จะหลบหนีออกนอกประเทศไป 2 ปีก่อนหน้านี้ พบว่ายานูโควิชและพรรคการเมืองของเขาล้วนแต่พึ่งพาการให้คำแนะนำทางการเมืองจากมานาฟอร์ตและบริษัทที่ปรึกษาของเขา ซึ่งมานาฟอร์ตได้ช่วยเหลือให้ยานูโควิชและพรรค Party of Regions ชนะการเลือกตั้งหลายครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นกลับไม่พบว่า มานาฟอร์ตถูกจดทะเบียนในฐานะเอเยนต์ต่างชาติกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่มีข้อกำหนดว่า ต้องมีการขึ้นทะเบียนสำหรับใครก็ตามที่ต้องการจะมีอิทธิพลต่อนโยบายสหรัฐฯในฐานะเป็นตัวแทนของลูกค้าต่างชาติ แต่สื่อสหรัฐฯพบว่าหนึ่งในซับคอนแทรกเตอร์ของมานาฟอร์ตได้ทำการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
นิวยอร์กไทม์สรายงานเพิ่มเติมต่อว่า นอกเหนือจากที่มานาฟอร์ตไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯแล้ว ยังไม่พบว่าค่าตอบแทนที่เขาได้รับมีจำนวนที่แท้จริงเท่าใด
ทั้งนี้บัญชีลับของพรรค Party of Regions นั้นมีจำนวนราว 400 หน้าที่ถูกนำออกมาจากสมุดบัญชีเก็บไว้บนชั้น 3 ของอดีตที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของพรรคบนถนนลิบสกายา(Lipskaya)ในกรุงเคียฟ และพบว่าภายในห้องยังมีตู้เซฟ 2 ใบที่อัดแน่นไปด้วยธนบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯฉบับละ 100 ดอลลาร์ ทาราซ วี คอร์โนวิล(Taras V. Chornovil) อดีตหัวหน้าพรรค Party of Regions ที่เป็นหนึ่งในผู้รับเงินด้วยเช่นกันในขณะนั้นให้ข้อมูล
โดยคอร์โนวิลกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์สว่า เขาได้รับเงินสดปึกใหญ่จำนวนราว 10,000 ดอลลาร์สำหรับการท่องเที่ยวยุโรป และได้กล่าวต่อว่า “นี่เป็นเงินของพวกเรา” คอร์โนวิลกล่าว และเสริมต่อว่าสาเหตุที่เขาต้องลาออกจากพรรคแห่งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการจ่ายเงินแบบลับๆโดยไม่ลงบัญชีเหล่านี้ “พวกเขาวางมันบนโต๊ะ เงินสดเป็นตั้ง และพวกเขาได้ทำรายชื่อว่าต้องจ่ายให้กับผู้ใดบ้าง” คอร์โนวิลให้ความเห็น
ซึ่งพบว่าซาสำนักงานปราบปรามคอรัปชันยูเครนเป็นผู้ค้นพบบัญชีลับพรรค Party of Regions เปิดเผยว่า มีปรากฏชื่อของมานาฟอร์ตอยู่ในบัญชีนี้ถึง 22 ครั้งในช่วงเวลา 5 ปี และไม่ทราบถึงจุดประสงค์ในการจ่าย โดยสื่อสหรัฐฯชี้ว่า การลงบันทึกด้วยลายมือที่พบนี้ไม่สามารถนำไปอ้างตรวจสอบยืนยันความถูกต้องกับธนาคารได้ และอีกทั้งลายเซ็นผู้รับเงินในชื่อของพอล มานาฟอร์ตยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นลายเซ็นที่แท้จริงหรือไม่ นิวยอร์กไทม์สชี้
และยังพบต่อว่า ในการลงบันทึกการจ่ายเงินของพรรคยานูโควิชนั้นพบว่ามีรายละเอียดการจ่ายให้กับบุคคลต่างๆตั้งแต่จำนวนหลายร้อยดอลลาร์ไปจนถึงหลายล้านดอลลาร์ ตัวอย่างเช่น ในการบันทึกจ่ายเงินปี 2012 พบว่ามีรายการหนึ่งถูกสั่งจ่ายในจำนวน 67,000 ดอลลาร์สำหรับนาฬิกา และในอีกธุรกรรมที่มีตัวเลขการจ่ายราว 8.4 ล้านดอลลาร์ถูกจ่ายไปให้เจ้าของบริษัทโฆษณารายหนึ่งสำหรับการทำแคมเปญจ์การเมืองของทางพรรคในการเลือกตั้งในปีนั้น