เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอาวุโส 50 คนในสังกัดพรรครีพับลิกันออกมาประกาศคว่ำบาตรมหาเศรษฐี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้แทนที่พรรคจะส่งลงชิงบัลลังก์ทำเนียบขาวปลายปีนี้ โดยเตือนว่าเขาจะเป็น “ประธานาธิบดีที่สะเพร่าที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”
เจ้าหน้าที่ในกลุ่มนี้มีทั้งที่เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ผู้อำนวยการข่าวกรอง ที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี และอดีตผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งเคยทำงานตั้งแต่สมัยรัฐบาลประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เรื่อยมาจนถึงยุคของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช
“เราเชื่อว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีที่อันตราย และจะทำให้ความมั่นคงและสวัสดิภาพของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง” คำแถลงของคณะเจ้าหน้าที่ซึ่งเผยแพร่ลงหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สระบุ
แม้ไม่ได้ประกาศว่าจะเลือก ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยแสดงความ “กังขา” ไม่น้อยเกี่ยวกับคุณสมบัติของเธอ แต่เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ระบุอย่างชัดเจนว่า “พวกเราทุกคนจะไม่ไปโหวตให้ โดนัลด์ ทรัมป์”
ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้กล่าวแบบไม่อ้อมค้อมว่ามหาเศรษฐีปากร้ายไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำสหรัฐฯ โดยย้ำคำวิจารณ์ของ คลินตัน ที่ว่า ทรัมป์ “ขาดบุคลิก ค่านิยม และประสบการณ์ในการเป็นประธานาธิบดี” และบ่อยครั้งที่เขาแสดงออกว่า “ไม่รู้ข้อเท็จจริงพื้นฐาน” เกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ “อย่างน่าตกใจ”
คำแถลงของคณะเจ้าหน้าที่ระบุต่อไปว่า มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชาวนิวยอร์กไม่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้กิจการต่างประเทศ หรือภัยคุกคามต่างๆ ที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญอยู่ ทั้งยังมีนิสัย “หุนหันพลันแล่น” และขาดการควบคุมตนเอง
“เขาไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจ ที่จะแยกแยะถูกผิด” ทั้งยังมี “คุณลักษณะที่อันตรายหลายอย่าง” ซึ่งไม่เหมาะสมต่อตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกา คำแถลงระบุ
“เราเชื่อว่าหากเขาได้เข้าไปอยู่ในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) เขาจะเป็นประธานาธิบดีที่สะเพร่าที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา”
เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ยังเตือนว่า “พฤติกรรมไม่อยู่กับร่องกับรอย” ของนักการเมืองมือใหม่ผู้นี้สร้างความกังวลต่อชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอเมริกา และ ทรัมป์ เองก็ไม่ได้ตระหนักว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเหล่านี้สำคัญยิ่งยวดเพียงใด
ผู้ที่ลงนามในคำแถลงฉบับนี้ยังรวมถึง ทอม ริดจ์ และ ไมเคิล เชอร์ทอฟฟ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิคนที่ 1 และ 2 ในรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช, จอห์น เนโกรปอนเต อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ และ ไมเคิล เฮย์เดน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ในยุคของ บุช
อดีตผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ และประธานธนาคารโลก “โรเบิร์ต ซิลลิค” รวมถึง อีริค อีเดลแมน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงภายในของรองประธานาธิบดี ดิค เชนีย์ ก็อยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ลงนามต่อต้าน ทรัมป์ ด้วย
ทรัมป์ ได้ออกมาตอบโต้เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้อย่างเผ็ดร้อน โดยวิจารณ์พวกเขาว่า “เป็นแค่พวกอภิชนที่ล้มเหลว และยังอยากจะยื้ออำนาจต่อไป” พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ “ควรรับผิดชอบ” ที่มีส่วนทำให้โลกปลอดภัยน้อยลง
“เจ้าหน้าที่วงในเหล่านี้ รวมถึง ฮิลลารี คลินตัน คือกลุ่มคนที่ตัดสินใจนำสหรัฐฯ บุกอิรัก ปล่อยให้พลเมืองอเมริกันตายอยู่ที่เบงกาซี (เมืองในลิเบีย) และพวกเขานี่แหละที่เปิดโอกาสให้ไอเอส (กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม) เฟื่องฟูขึ้นมาได้” ทรัมป์ กล่าว
“ผมนำเสนอวิสัยทัศน์ที่ดีกว่าสำหรับสหรัฐฯ และนโยบายต่างประเทศของเรา ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากมีการสืบทอดอำนาจในครอบครัว”