รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลีย ประกาศในวันนี้ (29 ก.ค.) ว่าจะไม่เสนอชื่อ “เควิน รัดด์” อดีตผู้นำแดนจิงโจ้จากพรรคแรงงาน เข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คนใหม่ โดยระบุว่า รัดด์ “ไม่เหมาะสม” กับตำแหน่งดังกล่าว
รัดด์ซึ่งพูดภาษาจีนกลางได้คล่องแคล่ว เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียระหว่างปี 2007-2010 และสมัยที่ 2 ในปี 2013 ปัจจุบันเป็นประธานสถาบัน Asia Society Policy Institute ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในนครนิวยอร์ก
ตลอดช่วงเวลา 6 ปี รัดด์ต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมพรรคอย่าง จูเลีย กิลลาร์ด จนกระทั่งมาพ่ายศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายให้แก่ โทนี แอ็บบอตต์ จากพรรคลิเบอรัลในปี 2013
เทิร์นบูลล์ซึ่งก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคลิเบอรัลและนายกรัฐมนตรีต่อจากแอ็บบอตต์ ยืนยันว่าที่รัฐบาลปฏิเสธการเสนอชื่อ รัดด์ “ไม่เกี่ยวกับการเมือง” แต่เป็นการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี หลังจากที่ได้พิจารณาคุณสมบัติของรัดด์อย่างถี่ถ้วนแล้ว
“คนในรัฐบาลรวมถึงพวกเราและตัวผมในฐานะนายกรัฐมนตรี เชื่อหรือเปล่าว่าคุณรัดด์มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนี้? ด้วยวิจารณญาณของผมคิดว่าไม่ใช่” เทิร์นบูลล์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่กรุงแคนเบอร์รา
ทั้งนี้ นับเป็นเรื่องผิดปกติอยู่ไม่น้อยที่รัฐบาลจะไม่สนับสนุนอดีตผู้นำประเทศของตนเข้ารับตำแหน่งสูงสุดในยูเอ็น แม้แต่นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ แห่งนิวซีแลนด์เองก็ยังออกมาช่วยหาเสียงหนุนอดีตนายกฯ เฮเลน คลาร์ก ให้ได้ดำรงตำแหน่งนี้ต่อจาก บัน คีมูน
อย่างไรก็ดี ในกรณีของรัดด์ จัดว่าเป็นนักการเมืองที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด และเป็นที่ลังเลสงสัยกันมาตลอดว่า เทิร์นบูลล์จะยอมเสนอชื่อรัดด์ชิงเก้าอี้เลขาฯ ยูเอ็นตามที่เจ้าตัวเรียกร้องหรือไม่
อันที่จริง รัดด์ ก็ถือเป็นผู้สมัครนอกสายตาพอสมควร เพราะโดยธรรมเนียมแล้ว ตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นจะหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปตามภูมิภาค และมีเพียงยุโรปตะวันออกเท่านั้นที่ยังไม่เคยมีผู้ได้รับตำแหน่งสูงสุดนี้มาก่อน
แม้การสนับสนุนจากรัฐบาลจะไม่ใช่เงื่อนไขจำเป็น แต่คำปฏิเสธของเทิร์นบูลล์ก็ยิ่งทำให้โอกาสของรัดด์เลือนรางลงไปอีก
ขณะที่ รัดด์ ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ และผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ก็ยังไม่สามารถติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เขาได้