xs
xsm
sm
md
lg

6 อดีตนายกฯ ออสซีที่ยังมีชีวิต จับมือร้องอิเหนา “เว้นโทษตาย 2 นักโทษหัวหน้าแก๊งบาหลีไนน์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียจำนวน 6คนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ทั้งหมดในวันอังคาร (17 ก.พ) ได้จับมือร่วมกันเพื่อร้องขอให้รัฐบาลอินโดนีเซีย ยกเว้นโทษประหารชีวิตแอนดรูว์ ชาน และ มยูรัน สุกุมารัน หัวหน้าแก๊ง “บาหลีไนน์” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดปี 2005 ในขณะที่ช่องทางการช่วยเหลือสองผู้ต้องหาตามกฎหมายมีทางเหลือน้อยลงทุกที

แอนดรูว์ ชาน วัย 31 ปี และ มยูรัน สุกุมารัน วัย 33 ปี ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2006 จากการที่เป็นหัวหน้ากลุ่มบาหลีไนน์ แอบลักลอบขนเฮโรอินน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 8.3 กก.จากเกาะบาหลีไปยังออสเตรเลีย และคนทั้งคู่ถูกกำหนดส่งตัวไปยังเรือนจำความปลอดภัยสูงบนเกาะนาสุกัมบานกัน (Nasukambangan) ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะมีการประหารชีวิตเกิดขึ้น แต่กำหนดวันที่แน่นอนยังไม่ทราบแน่ชัด

นอกจากนี้ มีนักโทษต่างชาติอีกไม่กี่รายที่ร้องขอให้มีการลดหย่อนผ่อนโทษ ต่างต้องผิดหวังที่ได้รับการปฏิเสธ รวมไปถึงนักโทษจากบราซิล ฝรั่งเศส กานา ไนจีเรีย และฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าคนทั้งหมดจะถูกสั่งย้ายเรือนจำเช่นกัน

เอเอฟพีรายงานว่า นับตั้งแต่อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มัลคอม เฟรเซอร์ ที่เดยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 1975-1983 ไปจนถึงผู้สืบทอดต่อจากเขา บ็อบ ฮอก รวมไปถึง พอล คีธิง และโฮวาร์ด นอกจากนี้ยังมี เควิน รัดด์ และจูเลีย กิลลาร์ด ได้ร่วมกันขอรัฐบาลอินโดนีเซียให้ลดโทษกับสองนักโทษพลเมืองออสเตรเลียผ่าหน้าหนังสือพิมพ์แดนจิงโจ้

“เราต่อต้าต้านการมีโทษประหารในออสเตรเลีย” เฟรเซอร์กล่าว ส่วนฮอกกล่าวว่า ความยุติธรรมควรต้องตั้งอยู่บนความเข้าใจในตัวมนุษย์ ซึ่งคนทั้งสองทำผิดเมื่อพวกเขาอายุน้อย และโง่เขลา ซึ่งคนทั้งคู่ได้รับการลงโทษด้วยการถูกจำคุกแล้วด้วยความประพฤติทีเป็นแบบอย่างที่ดี และดังนั้นผมจึงร้องขอความเมตตาจากรัฐบาลอินโดนีเซียให้พิจารณาถึงการละโทษประหารชีวิตพวกเขา

ด้านกิลลาร์ดเปิดเผยว่า “ในส่วนตัวดิฉัน คงต้องรู้สึกใจสลายเมื่อทราบว่าความพยายามที่มีมาทั้งหมดเพื่อกลับตัวนั้นสูญเปล่า และไม่สามารถมีผลได้รับความเมตตา” และรัดด์ที่ขึ้นเป็นรัฐมนตรีออสเตรเลียปี 2007 เปิดเผยว่า “ในฐานะที่เป็นเพื่อที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง และยาวนานกับออินโดนีเซีย ร้องขอพิจารณาลดผ่อนโทษ” รวมไปถึงคีธิงเสริมว่า “โทษประหารชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่โหดร้าย ที่จะไม่สามารถทำให้เกิดการสำนึกผิดขึ้นมาได้” และในกรณีของสองพลเมืองออสเตรเลียนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ต้องไม่เห็นชอบถึงการให้อภัย

ด้านโทนี แอ็บบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในสมัยปัจจุบัน ได้เคยแถลงไม่เห็นด้วยในโทษประหารชีวิตของอินโดนีเซีย และได้เคยกล่าวเตือนจาการ์ตาว่า แคนเบอรร์ราจะไม่รู้สึกยินดีหากอินโดนีเซียยังเดินหน้าโทษประหารชีวิต “เหมือนเฉกเช่นชาวอสเตรเลียหลายร้อยหล้านคน ผมรู้สึกหดหู่ใจอย่างรุนแรงเมื่อคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนทั้งสองที่ยังอายุน้อยเช่นนี้” แอ็บบอตต์แถลง

อย่างไรก็ตาม ทนายความของชานและสุกุมารันชี้ว่า การย้ายคนทั้งสองไปยังเรือนจำมั่นคงสูงบนเกาะสุกัมบานกันไม่ควรเกิดขึ้นในระหว่างยังอยู่ในการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลอินโดนีเซียได้ประกาศกำหนดที่จะพิจารณาคดีของคนทั้งคู่ใหม่อีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป และอ้างว่าประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ไม่ปฎิเสธโอกาสในการให้ลดหย่อนโทษ แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ผู้นำอิเหนาคนใหม่สนับสนุนโทษประหารชีวิต และได้ปฎิญาณที่จะให้มีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อกำจัดกระบวนการค้ายาเสพติด ซึ่ง โจโก วิโดโด เรียกว่า “drug emergency”




กำลังโหลดความคิดเห็น