เอเอฟพี - “ฮ่องกง” กลายเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติที่จะไปพักอาศัย แซงหน้า “ลูอันดา” เมืองหลวงของแองโกลา ตามการจัดอันดับโดยบริษัทที่ปรึกษา เมอร์เซอร์ กรุ๊ป ซึ่งเผยแพร่วันนี้ (22 มิ.ย.)
หลังจากรั้งแชมป์เมืองค่าครองชีพแพงหูฉี่สำหรับชาวต่างชาติมาตลอด 3 ปีซ้อน ลูอันดาต้องสูญเสียตำแหน่งนี้ให้แก่ฮ่องกงในปี 2016 สืบเนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่แข็งค่าขึ้น
เมอร์เซอร์ใช้นครนิวยอร์กเป็นเมืองฐาน โดยให้มีดัชนีเท่ากับ 100 จุด แล้วนำไปเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ กว่า 200 เมืองในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ กว่า 200 รายการ เช่น ที่พักอาศัย การคมนาคมขนส่ง อาหาร เสื้อผ้า เครื่องใช้ภายในบ้าน และการนันทนาการ
เงินดอลลาร์ฮ่องกงนั้นผูกติดอยู่กับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าขึ้นมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
“โดยทั่วไปแล้วราคาสินค้าและบริการทั่วโลกยังค่อนข้างเสถียร” บรูโน ร็อกเกอร์มอนต์ จากบริษัท เมอร์เซอร์ ฟรานซ์ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี พร้อมระบุว่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้อันดับของเมืองต่างๆ เพิ่ม หรือลดอย่างฮวบฮาบ
การแข็งค่าของเงินเยนส่งผลให้โตเกียวขยับขึ้น 6 อันดับจากปีที่แล้ว กลายเป็นเมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดอันดับ 5 สำหรับคนต่างด้าว ตามหลังซูริกและสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 3 และ 4
ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ๆ ทั่วสหรัฐฯ ก็ขยับสูงขึ้นตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์
ในทางกลับกัน ภาวะค่าเงินอ่อนก็ช่วยให้ค่าครองชีพสำหรับชาวต่างชาติถูกลงในบางประเทศ ตัวอย่างเช่น มอสโก ซึ่งวิกฤตค่าเงินรูเบิลดิ่งเหวทำให้ราคาสินค้าตกต่ำลงเป็นพิเศษ ร่วงจากอันดับ 17 ลงมาอยู่ที่ 67 ในปีนี้
กรุงวินด์ฮุก เมืองหลวงของนามิเบีย รั้งท้ายตารางจากทั้งหมด 209 เมืองทั่วโลกที่ทำการสำรวจ