บริษัทที่ปรึกษาเมอร์เซอร์ เปิดเผยรายงานประจำปี ระบุว่า ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัย โดยลูอันดา เมืองหลวงของอังโกลา ซึ่งอยู่อันดับ 1 เมื่อปีก่อน ลดลงมาอยู่อันดับที่ 2 เนื่องการที่ค่าเงินท้องถิ่นอ่อนค่าลง ส่วนซูริค และสิงคโปร์ ยังคงที่อยู่ในอันดับ 3 และ 4 ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่ผ่านมา ขณะที่โตเกียวเลื่อนอันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ขณะที่เมืองที่มีค่าครองชีพในระดับต่ำที่สุด คือวินด์ฮุก เมืองหลวงของนามิเบีย และเคปทาวน์ ของแอฟริกาใต้
รายงานของเมอร์เซอร์มีขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นคู่มือในการกำหนดอัตราค่าจ้างเงินเดือนให้กับแรงงานต่างชาติ โดยสำรวจค่าใช้จ่ายของชาวต่างชาติใน 209 เมืองทั่วโลก ทั้งที่พักอาศัย การคมนาคม อาหาร เสื้อผ้า และความบันเทิง ซึ่งยังพบปัจจัยที่มีความสำคัญที่มีผลต่อค่าครองชีพชาวต่างชาติในแต่ละเมืองคือ ตลาดการเงินที่ผันผวน และปัญหาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของสำนักงานข่าวกรองเศรษฐศาสตร์ หรือ อีไอยู ที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ระบุว่า เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกคือ สิงคโปร์ รองลงมาคือซูริค ฮ่องกง เจนีวา และกรุงปารีส
รายงานของเมอร์เซอร์มีขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นคู่มือในการกำหนดอัตราค่าจ้างเงินเดือนให้กับแรงงานต่างชาติ โดยสำรวจค่าใช้จ่ายของชาวต่างชาติใน 209 เมืองทั่วโลก ทั้งที่พักอาศัย การคมนาคม อาหาร เสื้อผ้า และความบันเทิง ซึ่งยังพบปัจจัยที่มีความสำคัญที่มีผลต่อค่าครองชีพชาวต่างชาติในแต่ละเมืองคือ ตลาดการเงินที่ผันผวน และปัญหาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของสำนักงานข่าวกรองเศรษฐศาสตร์ หรือ อีไอยู ที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ระบุว่า เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกคือ สิงคโปร์ รองลงมาคือซูริค ฮ่องกง เจนีวา และกรุงปารีส