เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก(WHO) จะจัดประชุมฉุกเฉินในวันพฤหัสบดี(19พ.ค.) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วงของไข้เหลืองในแองโกลา แต่เสี่ยงที่จะแผ่ลามไปไกลกว่านั้นหากไม่ยกระดับการเข้าถึงวัคซีน
การประชุมของหน่วยงานสหประชาชาติลักษณะนี้ บ่อยครั้งถูกจัดขึ้นก่อนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก และการแพร่ระบาดของไวรัสซิกา ในทวีปอเมริกา
มาริค จาซาเรวิค โฆษกขององค์การอนามัยโลกบอกกับเอเอฟพีว่าการเรียกประชุมครั้งนี้ย้ำให้เห็นถึงความรุนแรงของการแพร่ระบาดของไข้เหลือง และเน้นอีกรอบให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีวัคซีนจำนวนมากเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสชนิดนี้
จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม แองโกลาพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้เหลือง 2,267 ราย ในนั้นเสียชีวิตแล้ว 293 คน ในการแพร่ระบาดที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนธันวาคม และพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดคือกรุงลูอันดา เมืองหลวงของประเทศ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 44 ราย จากทั้งการแพร่ระบาดในท้องถิ่นและจากคนไข้ที่นำไวรัสเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างแองโกลา เช่นเดียวกับยูกันดา ที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อหลายคน
นอกจากนี้แล้วยังมีชาวบ้าน 8 คนในจีน ที่ผลตรวจหาเชื้อไข้เหลืองออกมาเป็นบวก หลังเดินทางกลับจากแองโกลา ย้ำถึงความเสี่ยงของการแพร่ระบาดระดับนานาชาติผ่านนักเดินทางที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
จำนวนของประชาชนที่ได้รับวัคซีนคุ้มกันไข้เหลืองในหลายพื้นที่ของแอฟริกา หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วถือว่ายังต่ำมาก แม้วัคซีนได้ผลเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์และมีราคาค่อนข้างต่ำ
องค์การอนามัยโลกได้จัดส่งวัคซีนแก่แองโกลา 11.7 ล้านโดสและมีแผนจะจัดมอบวัคซีนแก่ผู้คน 2.2 ล้านคนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกเคยให้สัญญายกระดับระบบตอบสนองฉุกเฉินของพวกเขา หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตามหลังการแพร่ระบาดของอีโบลา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากตำหนิหน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้ว่าใช้เวลานานเกินไปก่อนออกประกาศเตือนระดับนานาชาติ