ญี่ปุ่นกลัว “ขายหน้า” แต่เนิ่น ๆ ในการเป็น “เจ้าภาพโอลิมปิก” เมื่อ “ผู้ว่าโตเกียว” ถูกบีบให้ลงจากตำแหน่ง

รอยเตอร์ - ผู้ว่าการกรุงโตเกียว โยอิชิ มาซูโซอิ ที่เก้าอี้ร้อนฉ่าจากการนำเงินภาษีประชาชนไปใช้จ่ายเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยวของครอบครัว ตลอดจนเพื่อซื้องานศิลปะเป็นสมบัติส่วนตัว เผชิญกับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นทุกทีให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งมีหวังกระทบกระเทือนการเลือกตั้งในระดับชาติ รวมทั้งทำให้เกิดการอับอายขายหน้าในวาระที่โตเกียวกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2020

ผู้ว่าการกรุงโตเกียวคนก่อนหน้า มาซูโซอิ ก็ต้องลาออกมาแล้ว สืบเนื่องจากกรณีอื้อฉาวเรื่องใช้จ่ายเงินหลวง ไม่นานนักหลังจากเขาเข้าร่วมผลักดันให้โตเกียวเป็นผู้ชนะได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และเวลานี้พวกสมาชิกสภากรุงโตเกียว ก็กำลังเรียกร้อง มาซูโซอิ ให้กระทำอย่างเดียวกัน ภายหลังไม่สามารถชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดเจนครั้งแล้วครั้งเล่า เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินหลวงของเขา ซึ่งมีรายการอย่างเช่น การนำไปซื้อหนังสือการ์ตูนสำหรับลูก ๆ ของเขาเอง

มาซูโซอิ ซึ่งปัจจุบันอายุ 67 ปี มีชัยชนะได้เป็นผู้ว่าการ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2014 โดยได้รับความสนับสนุนจากคณะรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ เขามีหวังประสบกับแรงบีบคั้นเพิ่มขึ้นอีก เมื่อพวกนักการเมืองฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ โดยอาจจะยื่นกันในวันนี้ (14 มิ.ย.)

ทว่า จังหวะเวลาดูจะกลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนขึ้นมา ในเมื่อคณะรัฐบาลผสมของญี่ปุ่นด้านหนึ่งหวาดเกรงว่า กรณีฉาวของ มาซูโซอิ จะก่อผลเสียหายแก่พวกเขาในการเลือกตั้งสภาสูงที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 10 กรกฎาคม ถ้าหากพวกเขายังไม่ทำอะไรเลยในเรื่องนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง พวกเขาก็วิตกว่าจะเกิดความอับอายขายหน้า หากต้องให้ผู้รักษาการผู้ว่าการกรุงโตเกียว ไม่ใช่ผู้ว่าการตัวจริงเสียงจริง ไปเป็นผู้รับมอบธงโอลิมปิก ในตอนปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนเมืองริโอ เด จาเนโร, บราซิล เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งต่อไป

มาซูโซอิเองพร่ำพูดขอร้องขอเวลาอยู่ต่อไปอีกหน่อย โดยสัญญาที่จะคืนเงินเดือนของเขาทั้งหมด เพื่อแลกกับการเลื่อนเวลาออกเสียงลงมติไม่ไว้วางใจไป จนกระทั่งหลังจากโอลิมปิกที่ริโอสิ้นสุดลงในวันที่ 22 สิงหาคม เนื่องจากถ้าเขาแพ้โหวตในช่วงนี้ อาจหมายถึงต้องจัดเลือกตั้งผู้ว่าการคนใหม่ระหว่างที่โอลิมปิกในริโอกำลังดำเนินอยู่

“ผมไม่มีความตั้งใจที่จะยึดเก้าอี้ผู้ว่าเอาไว้ไม่ยอมลุกหรอก” เขาบอกกับที่ประชุมสภานิติบัญญัติกรุงโตเกียว ภายหลังการอภิปรายกันอย่างดุเดือดเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ (13)

“แต่ผมคิดว่ามันจะเกิดความวุ่นวายสับสน ถ้าต้องจัดการเลือกตั้งในเวลาเดียวกับกีฬาโอลิมปิกริโอ ซึ่งนั่นจะไม่ให้ประโยชน์อะไรแก่เจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งต่อไปเลย”

พวกสมาชิกนิติบัญญัติที่มาจากพรรคลิเบอรัล เดโมเครติก ปาร์ตี หรือ แอลดีพี ของอาเบะ ซึ่งเป็นแกนนำของรัฐบาลผสม ยังไม่ได้ให้การสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจนี้ ทว่า พรรคโคเออิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคหนึ่งนั้น แสดงท่าทีว่าอาจจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจของทางพรรคเอง

บรรดาเจ้าหน้าที่ของแอลดีพี ยอมรับว่า กรณีฉาวโฉ่นี้ซึ่งทำให้มีเสียงร้องเรียนอย่างท่วมท้นจากประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงนั้น อาจทำให้พรรคตกอยู่ในที่นั่งลำบากมากขึ้น แทนที่จะชนะการเลือกตั้งสภาสูงสบาย ๆ อย่างที่เคยคาดการณ์กัน