เอเอฟพี - เยอรมนีและฝรั่งเศสเรียกร้องในวันนี้ (23) ให้เคียฟถอนรากถอนโคนการคอร์รัปชันและรับรองกฎหมายเลือกตั้งในภาคตะวันออกของประเทศที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซีย โดยหวังว่าอาจจะช่วยปลดชนวนสงครามนาน 22 เดือนของยูเครนได้
“เราต้องการการปฏิรูปทางเศรษฐกิจเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้” แฟรงค์-วัลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี บอกในการแถลงข่าวร่วมกับ ฌอง-มาร์ค เอย์โรลท์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส และ ปาฟโล คลิมคิน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยูเครน
“แต่มันจำเป็นที่นโยบายนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักการไม่อดทนต่อการคอร์รัปชัน” สไตน์ไมเออร์เน้นย้ำ
เขากล่าวเสริมว่า “เราไม่อาจยอมรับว่ามีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงมากมายเหลือเกินและว่ากฎหมายเลือกตั้งถูกผัดผ่อน” โดยยูเครน
กฎหมายดังกล่าว “จะเป็นรากฐานให้กับการเลือกตั้งที่จะถูกจัดขึ้นในภาคตะวันออก”
เบอร์ลินและปารีสเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในความพยายามของฝ่ายตะวันตกที่จะยุติการปฏิวัติโค่นผู้นำโปรตะวันตกของเคียฟที่คร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 9,000 รายในสวนหลังบ้านของสหภาพยุโรปแห่งนี้
แต่ข้อตกลงสันติภาพที่ถูกลงนามเมื่อหนึ่งปีที่แล้วเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างถาวรภายในสิ้นปี 2015 ได้หมดอายุลงแล้วโดยที่แทบไม่มีการปฏิบัติตามข้อผูกมัดเลย
หนึ่งในมาตรการเหล่านั้นคือการที่ยูเครนต้องรับรองกฎหมายเลือกตั้งที่ให้สถานะพิเศษชั่วคราวแก่แคว้นที่ปกครองโดยฝ่ายกบฏ ซึ่งเคียฟปฏิเสธที่จะทำตาม
นอกจากนี้ ประเทศนี้เองยังประสบกับวิกฤตทางการเมืองซึ่งได้เห็นนายกรัฐมนตรี อาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค รอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก เรียกร้องให้ผู้นำรัฐบาลของเขาลงจากตำแหน่ง
โพลความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่าชาวยูเครนไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับการที่ผู้นำสองคนนี้ไม่สามารถบรรลุแผนการปราบคอร์รัปชันและปฏิรูปที่ผลักดันให้พวกเขาขึ้นสู่อำนาจภายหลังการโค่นล้มผู้นำคนก่อนที่หนุนหลังโดยมอสโกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแดนน้ำหอมระบุว่า สหภาพยุโรป “จะยังคงสนับสนุนประเทศของคุณต่อไป”
“อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ชัดเจนเราต้องการให้ยูเครนมีนโยบายที่เด็ดขาด เชื่อถือได้ และยั่งยืน” เอย์โรลท์กล่าว
การเยือนเคียฟของรัฐมนตรีทั้งสองรายนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยปูทางให้กับการพบปะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนในกรุงปารีสวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนให้กับหนึ่งในความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในยุโรนับตั้งแต่สงครามบอลข่านช่วงทศวรรษ 1990
ทั้ง 4 ชาติยอมรับข้อตกลงกรุงมินสก์ 2 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของชาติเหล่านี้มักจัดประชุมกันเป็นครั้งคราวเพื่อแก้ไขประเด็นต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการคืนสันติภาพแก่ภาคตะวันออกของยูเครน