รอยเตอร์ - รัสเซียเผยในวันศุกร์(27พ.ค.) ได้ยกระดับโจมตีทางอากาศหนักหน่วงขึ้นต่อที่ตั้งทางน้ำมันซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย แต่วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯที่ไม่ยอมเข้าร่วมปฏฺิบัติการนี้
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(20พ.ค.) ยื่นข้อเสนอถึงสหรัฐฯและพันธมิตร สำหรับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศร่วมถล่มกบฏซีเรีย ในนั้นรวมถึงกลุ่มอิสลามิสต์นุสรา ฟรอนต์ ที่ไม่ถูกนับรวมในข้อตกลงหยุดยิง แต่วอชิงตันแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่สนใจแนวคิดนี้
"ปฏิกิริยาตอบสนองที่ได้รับจากสหรัฐฯ คาดหมายว่าคงไม่เข้าร่วมในปฏิบัติการร่วมโจมตีพวกองค์กรก่อการร้าย ที่ชักนำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย" จากการเปิดเผยของ เซอร์เก รัดสคอฟ ผู้บัญชาการกองบัญชาการปฏิบัติการหลักของเสนาธิการทหารรัสเซีย
ในขณะเดียวกัน รัดสตอฟ ยอมรับว่าพวกนุสรา ฟรอนต์ สามารถฟื้นประสิทธิภาพในการสู้รบคืนมาได้บางส่วน เสริมคลังอาวุธและกระสุน และเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวทางทหารอีกครั้ง
รัดสคอฟ เผยว่านักรบอิสลามิสต์กลุ่มนี้อาศัยความได้เปรียบจากคำประกาศยุติความเป็นปรปักษ์ในหลายพื้นที่ และจากข้อเท็จจริงที่ว่ากองกำลังของพวกเขามักประจำการอยู่ในพื้นที่เดียวกับพวกกบฏสายกลาง
"เคราะห์ร้ายที่คู่หูอเมริกันของเรา ไม่ยอมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ไม่ยอมโจมตีกลุ่มนุสรา ฟรอนต์ เพราะว่ากองกำลังของกบฏสายกลางอาจอยู่ในบริเวณใกล้เคียง" รัดสคอฟกล่าว
"หลังจากหารือกับผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ถึงความจำเป็นที่ต้องกัดเซาะศักยภาพทางเศรษฐกิจของพวกญิฮัด เครื่องบินรบรัสเซียโจมตีอย่างหนักหน่วงต่อที่แหล่งผลิตนำมันและเส้นทางลักลอบขนน้ำมันไปยังตุรกีของพวกนุสรา ฟรอนต์ นับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมเป็นต้นมา" เขากล่าว แต่ยอมรับว่ายังมีคำถามสำคัญๆระหว่างสองฝ่ายที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้
สหรัฐฯปฏิเสธมาตลอดสำหรับเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีร่วมกับรัสเซียในซีเรีย นับตั้งแต่มอสโกเริ่มโจมตีทางอากาศในดินแดนแห่งนี้ในเดือนกันยายนปีก่อน โดยกล่าวหาว่ามันมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือประคับประคองรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด