เอพี - รัสเซียเสนอฤกษ์หยุดยิงในซีเรีย 1 มีนาคม ทว่า อเมริกาไม่วางใจ และยืนกรานให้ทุกฝ่ายวางอาวุธทันที เชื่อมอสโกแค่ต้องการซื้อเวลา เพื่อร่วมกับอัสซาดไล่บดขยี้กลุ่มกบฏสายกลางต่ออีก 3 สัปดาห์
การเจรจาเกี่ยวกับการหยุดยิงดังกล่าวมีขึ้นขณะที่อเมริกา รัสเซีย และอีกกว่าสิบชาติ พบกันที่มิวนิก เพื่อหาทางระงับสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาถึง 5 ปีในซีเรีย และทำให้มีผู้สังเวยชีวิตกว่า 250,000 คน รวมทั้งนำไปสู่วิกฤตผู้อพยพครั้งรุนแรงที่สุดในยุโรปนับจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) บุกครอบครองดินแดนกว้างขวางในซีเรียและอิรักที่อยู่ติดกัน
รัสเซียนั้นประกาศสนับสนุนประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย โดยระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญต่อต้านการก่อการร้าย ทว่า ตะวันตกแย้งว่า การโจมตีส่วนใหญ่ของมอสโกพุ่งเป้าที่กบฏสายกลางที่ต่อสู้กับอัสซาดและไอเอสมากกว่า
การโจมตีล่าสุดใกล้อเลปโปที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เป็นสาเหตุให้กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียถอนตัวจากการเจรจาสันติภาพที่เจนีวาเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา และยังทำให้พลเรือนหลายหมื่นคนต้องหนีข้ามแดนเข้าสู่ตุรกี
เจ้าหน้าที่อเมริกันที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเกี่ยวกับการหารือทางการทูตเป็นการส่วนตัวก่อนการประชุมในมิวนิก แย้มว่า สหรัฐฯ ไม่สามารถยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของรัสเซียได้ เนื่องจากกว่าที่ข้อตกลงจะมีผล กลุ่มกบฏสายกลางทางเหนือและใต้ของซีเรียคงถูกรัสเซียและกองทัพซีเรียไล่ถล่มย่อยยับ
เจ้าหน้าที่อเมริกันที่ไม่ประสงค์ออกนามเสริมว่า วอชิงตันได้ยื่นข้อเสนอโต้แย้งให้การหยุดยิงมีผลทันที ควบคู่ไปกับการอนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงศูนย์พลเรือนที่ถูกปิดล้อมในซีเรีย
ทั้งนี้ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ หารือกับสเตฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนฝ่ายสันติภาพของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และอะเดล อัล-จูเบียร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสำคัญของกลุ่มกบฏซีเรีย เมื่อคืนวันพุธ (10) หลังจากเดินทางถึงเยอรมนี
คณะบริหารของประธานาธิบดี บารัค โอบามา พยายามมานานหลายเดือนเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปูทางสู่การจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวในซีเรีย เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้งนี้หันไปทุ่มเทกับการเอาชนะภัยคุกคามจากไอเอสและกลุ่มนูสรา ฟรอนต์ ที่มีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์แทน
แต่หลังจากเรียกร้องอยู่นานให้ขับอัสซาด สุดท้ายการที่วอชิงตันหันไปมุ่งการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายกลับทำให้การวางกลยุทธ์สำหรับซีเรียซับซ้อนสับสน น้อยคนที่เข้าใจ และหลายคนลงความเห็นว่ากลยุทธ์ดังกล่าวไม่ได้ผล ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากรัสเซียแล้ว อเมริกายังต้องพยายามควบคุมให้พันธมิตรอย่างซาอุดีฯ และตุรกี เดินไปในทิศทางเดียวกัน
และระหว่างที่เคร์รีเดินเกมการทูตอยู่ที่มิวนิก แอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ก็กำลังหารือทางเลือกทางการทหารกับพันธมิตรในกลุ่มสนธิสัญญาปกป้องแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่บรัสเซลส์
เบร็ตต์ แมกเกิร์ค ผู้มีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการกวาดล้างไอเอสของคณะบริหารของโอบามา ชี้ว่า การโจมตีอเลปโปของรัสเซียเป็นการผลักดันให้นักรบท้องถิ่นยุติการต่อสู้กับไอเอส และหันไปทำสงครามกับรัฐบาลซีเรียแทน
เคร์รีสำทับว่า วอชิงตันไม่ได้นิ่งดูดายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอเลปโป และว่า การสู้รบในเมืองดังกล่าวทำให้การกลับสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพที่กำหนดไว้ในวันที่ 25 นี้ เพื่อหารือกันอย่างจริงจังทำได้ยากขึ้น
กระนั้น การเจรจาสันติภาพเป็นความหวังสำคัญของอเมริกาในการยุติสงครามกลางเมืองในซีเรีย เนื่องจากอเมริกันชนไม่เห็นด้วยกับการใช้ปฏิบัติการทางทหาร
ด้วยเหตุนี้วอชิงตันจึงจำใจโอนอ่อนลง จากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่เคี่ยวเข็ญให้อัสซาดลงจากอำนาจทันที กลายมาเป็นยอมให้รัสเซียเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหา และถึงขั้นไม่ปริปากว่าอัสซาดควรถูกห้ามลงเลือกตั้ง หากซีเรียร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นโยบายที่ไร้ความชัดเจนของแดนอินทรีทำให้ฝ่ายสนับสนุนอัสซาดอย่างรัสเซียและอิหร่านตีปีก ขณะที่พันธมิตรของอเมริกากลางในตะวันออกกลางหัวเสียไปตามๆ กันกับกระบวนการที่ดูเหมือนเป็นการรับประกันว่าอัสซาดจะยังอยู่ในอำนาจจนถึงสิ้นปีหน้าหรืออาจนานกว่านั้น