เอเอฟพี - กลุ่มเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนในวันพุธ(20ม.ค.) ออกมากล่าวหารัสเซียอีกรอบ ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของมอสโกในซีเรียเข่นฆ่าชีวิตพลเรือนแล้วมากกว่า 1,000 ศพ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการเมื่อเกือบ 4 เดือนก่อน หลังจากก่อนหน้านี้เคยกระตุ้นให้เครมลินออกมาปฏิเสธมาแล้วหนหนึ่ง
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานในกรุงลอนดอน ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน คร่าชีวิตพลเรือนทั้งสิ้น 1,015 คน ในนั้นเป็นเด็กมากกว่า 200 คน
ทางกลุ่ม ซึ่งพึ่งพิงเครือข่ายแหล่งข่าวทางภาคพื้นระบุในรายงานว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียสังหารนักรบญิฮัดของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) 893 คน และนักรบกลุ่มอื่นๆที่ต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดอีก 1,141 คน ในนั้นมีสมาชิกของกลุ่มอัล-นุสรา ฟรอนต์ เครือข่ายอัลกออิดะห์รวมอยู่ด้วย
รวมแล้วมีผู้ถูกสังหารทั้งสิ้น 3,049 คน เพิ่มขึ้นจากช่วง 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้เกือบ 700 คน
รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลซีเรีย บอกว่าพวกเขามีเป้าหมายโจมตีพวกไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ แต่นักเคลื่อนไหวและฝ่ายกบฏกล่าวหามอสโกว่าพุ่งเป้าเล่นงานกบฏสายกลางและฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีอัสซาดมากกว่าไอเอส
มอสโกเคยออกมาประณามข้อกล่าวหาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพวกเขาได้เข่นฆ่าชีวิตพลเรือน ว่า "เหลวไหลสิ้นดี" และบอกว่าคำกล่าวอ้างของกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆเป็นการแต่งเรืองขึ้น
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียบอกว่ามีความแตกต่างกันระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย พันธมิตรนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯและรัฐบาลซีเรีย จากชนิดของเครื่องบินและกระสุนที่ใช้
พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯดำเนินการโจมตีทางอากาศถล่มไอเอสในซีเรียมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 แต่ไม่ได้ประสานงานการจู่โจมกับดามัสกัส โดยทางกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียระบุว่าการโจมตีเหล่านั้นได้คร่าชีวิตผู้คน 4,256 ศพนับตั้งแต่เริ่มขึ้น โดยเป็นพลเรือน 322 คน และในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 90 คน
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียนระบุว่าการโจมตีของพันธมิตรนานาชาติสามารถสังหารนักรบไอเอสได้ 3,787 รายและนักรบจากกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆอีกเกือบ 150 คน ในนั้นรวมถึงสมาชิกของอัล-นุสรา