เอเอฟพี - รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) รุดออกมาตอบโต้ว่าเป็นฝ่ายสหรัฐฯ เองที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองอเลปโปของซีเรีย หลังถูกเพนตากอนกล่าวหาว่ามอสโกทิ้งระเบิดทำลายโรงพยาบาล 2 แห่งในเมืองดังกล่าว การสาดโคลนกันไปมาระหว่างสองชาติมหาอำนาจที่ยืนอยู่คนละฝ่ายในสมรภูมิรบแห่งนี้
มอสโกตอบโต้คำกล่าวหาของสหรัฐฯ อย่างเผ็ดร้อน แถมยังกล่าวหากลับว่าเป็นวอชิงตันเองที่ส่งเครื่องบินโจมตีภาคพื้นทิ้งระเบิดถล่มเมืองอเลปโป
“ตอนเวลาราว 14.00 น. ตามเวลามอสโก (ตรงกับเมืองไทย 18.00 น.ของวันพุธ) เครื่องบิน A-10 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ บินเข้าน่านฟ้าซีเรียจากอาณาเขตของตุรกี” อิกอร์ โคเนเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลง “หลังไปถึงเมืองอเลปโปจากเส้นทางตรงแล้ว เครื่องบินสหรัฐฯ ก็ได้ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในเมือง”
อย่างไรก็ตาม พันเอก สตีฟ วอร์เรน โฆษกของพันธมิตรต่อสู้กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่นำโดยสหรัฐฯ ประจำแบกแดด บอกกับรอยเตอร์ในวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) คำกล่าวหาดังกล่าวเป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาของฝ่ายรัสเซีย
สงครามน้ำลายรอบล่าสุดนี้ปะทุขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (10 ก.พ.) เพนตากอนกล่าวหาว่ารัสเซียและรัฐบาลซีเรียทำลายโรงพยาบาลหลัก 2 แห่งของเมืองอเลปโปในเดือนนี้ ระหว่างปฏิบัติการรุกคืบของฝ่ายรัฐบาลภายใต้การสนับสนุนของมอสโก พร้อมเตือนว่าสถานการณ์ในเมืองกำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) ว่า กองทัพอากาศของพวกเขาโจมตีเป้าหมายก่อการร้าย 1,888 เป้าหมายใน 8 พื้นที่ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงจังหวัดอเลปโป ลาตาเคีย ฮามา และฮอมส์ อย่างไรก็ตาม พวกเขายืนยันว่าเป้าหมายที่ใกล้อเลปโปมากที่สุดในการโจมตีวันพุธ (10 ก.พ.) อยู่ห่างจากตัวเมืองไปมากกว่า 20 กิโลเมตร
นอกจากนี้แล้ว ทางกระทรวงกลาโหมมอสโกยังปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าการโจมตีของพวกเขามีเป้าหมายที่พลเรือน โดยยืนยันว่ากองทัพอากาศรัสเซียและกองกำลังรัฐบาลไม่เคยลงมือโจมตีประชาชนพลเมืองเลย
รัสเซียในวันพฤหัสบดี (11 ก.พ.) เผยว่าพวกเขาพร้อมหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย ขณะที่เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของชาติต่างๆ รวมตัวกันที่เมืองมิวนิก เยอรมนี ในความพยายามรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพ
นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เคยเตือนก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า การทิ้งระเบิดของรัสเซียที่มีเป้าหมายเล่นงานฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด อาจกีดขวางความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงครามการเมืองอันโหดร้ายในซีเรีย
มอสโกดำเนินการโจมตีทางอากาศในประเทศที่ถูกสงครามฉีกขาดนี้มาตั้งแต่ปีก่อนตามคำขอของประธานาธิบดี อัสซาด โดยบอกว่าเป้าหมายคือเล่นงานพวกไอเอสและกลุ่มญิฮัดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ตะวันตกกล่าวหามอสโกว่ามีเป้าหมายโจมตีกลุ่มกบฏสายกลางฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมากกว่า พร้อมแสดงความกังวลว่ามันอาจทำให้ฝ่ายค้านปฏิเสธเข้าร่วมเจรจาสันติภาพที่นำโดยสหประชาชาติ ขณะที่เมืองต่างๆ ของพวกเขายังถูกโจมตีอย่างหนัก
การเจรจานานาชาติเพื่อยุติสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานาน 5 ปีและเข่นฆ่าชีวิตผู้คนมากกว่า 260,000 ศพ พังครืนลงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อกล่าวหาจากตะวันตกและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซียมีเป้าหมายที่กลุ่มฝ่ายค้านและพลเมือง
ทั้งนี้ การเจรจาถูกระงับไว้ชั่วคราวอย่างน้อยๆ จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียระบุในวันพฤหัสบดี (11 ก.พ) ว่ามันอาจกลับมาเริ่มต้นใหม่เร็วกว่านั้น