เอเอฟพี - มัลดีฟประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านตามผู้สนับสนุนทางการเงินรายสำคัญอย่างซาอุดีอาระเบีย และกล่าวหาว่าเตหะรานบ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอ่าวอาหรับ
กระทรวงการต่างประเทศมัลดีฟระบุว่า นโยบายที่อิหร่านกำลังใช้อยู่ในตะวันออกกลาง “เป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคนี้” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ในถ้อยแถลงที่ออกเมื่อค่ำวานนี้ (17) กระทรวงระบุว่าพวกเขากำลังตัดความสัมพันธ์เนื่องจากเสถียรภาพในอ่าวอาหรับ “ก็เชื่อมโยงกับเสถียรภาพ สันติภาพ และความมั่นคงของมัลดีฟด้วย”
ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้ สถาปนาความสัมพันธ์กับอิหร่านอย่างเป็นทางการในปี 1975 แม้ว่าจะไม่มีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในอิหร่านก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้วประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน ของมัลดีฟได้ต้อนรับเอกอัครราชทูตคนใหม่ของอิหร่านประจำภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย โมฮัมเหม็ด ซาเอรี อามีรานี ซึ่งประจำการในเมืองหลวงโคลอมโบของศรีลังกา
หลังจากการพบปะดังกล่าว ยามีนกล่าวว่า เขาหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์และว่ามัลดีฟซึ่งมีประชากรชาวสุหนี่ 340,000 คนจะสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน มหาอำนาจนิกายชีอะห์อันดับหนึ่งในตะวันออกกลาง
ซาอุดีอาระเบียมหาอำนาจนิกายสุหนี่เมื่อไม่นานมานี้ได้ยกระดับการสนับสนุนทางการเงินแก่มัลดีฟ โดยประกาศว่าจะจัดหาทุน 50 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการบ้านพักทหารบนเกาะแห่งนี้ เว็บไซต์ Maldivesindependent.com รายงาน
มาเลยังกำลังพยายามขอเงิน 100 ล้านดอลลาร์จากริยาดห์เพื่อขยายสนามบินหลักของประเทศด้วย เว็บไซต์ข่าวท้องถิ่นรายงาน
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มัลดีฟเสื่อมเสียชื่อเสียงในฐานะสถานที่ฮันนีมูนระดับหรู เนื่องจากความไม่สงบทางการเมืองอันยืดเยื้อและการปราบปรามผู้เห็นต่าง
เมื่อเดือนมกราคมซาอุดีอาระเบียและอิหร่านได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกัน ริยาดห์ตัดความสัมพันธ์กับเตหะรานหลังจากผู้ประท้วงชาวอิหร่านเผาสถานทูตและสถานกงสุลของพวกเขาภายหลังซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตนักการศาสานานิกายชีอะห์ชื่อดังรายหนึ่ง