เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามอย่างรุนแรงในวันจันทร์ (4) ต่อการโจมตีสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะราน โดยกลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่พอใจการประหารชีวิตนักการศาสนานิกายชีอะห์ชื่อดังรายหนึ่ง
ถ้อยแถลงโดยกลุ่ม 15 ชาติสมาชิกกลุ่มนี้ไม่ได้พูดถึงการประหารชีวิต ชัยค์ นิมร์ อัล-นิมร์ แต่เรียกร้องให้อิหร่านคุ้มครองเจ้าหน้าที่และทรัพย์สินทางการทูต
ซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ (3) หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงบุกรื้อค้นและจุดไฟเผาสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะรานและสถานกงสุลในเมืองมัชฮัด
“สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงประณามด้วยถ้อยคำที่รุนแรงที่สุดต่อการโจมตีสถานทูตของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะราน และสถานกงสุลใหญ่ของประเทศนี้ ณ เมืองมัชฮัดในสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้เกิดการล่วงล้ำสถานที่ทางการทูตและทางกงสุล จนสร้างความเสียหายหนัก” ถ้อยแถลงของคณะมนตรีระบุ
คณะมนตรีแสดงความกังวลอย่างลึกซึ้งในเรื่องการโจมตีดังกล่าว และ “เรียกร้องให้ทางการอิหร่านคุ้มครองทรัพย์สินและเจ้าหน้าที่ทางการทูตและทางกงสุล และให้ความเคารพภาระหน้าที่ระหว่างประเทศของพวกเขาในการนี้อย่างเต็มที่”
สมาชิกคณะมนตรีเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย “รักษาการเจรจาไว้และใช้มาตรการลดความตึงเครียดในภูมิภาคนี้”
ก่อนหน้านี้ อับดุลลาห์ อัล-มูอัลลิมี เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคง “ใช้ทุกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับประกันว่าอาคารทางการทูตจะไม่ถูกล่วงละเมิด และนักการทูตซาอุดีอาระเบียในอิหร่านทุกคนจะได้รับความคุ้มครอง”
ริยาดยังปกป้องการประหารชีวิตชาย 47 คนที่รวมถึงนิมร์ด้วย โดยระบุในจดหมายถึง บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติว่าพวกเขาได้รับการพิจารณาและตัดสินคดีอย่างยุติธรรมโดยปราศจากการพิจารณาถึงสติปัญญา เชื้อชาติ หรือนิกายของพวกเขา”
ทั่วโลกกำลังกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าความแตกแยกระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านจะทำให้ความพยายามสร้างสันติภาพในซีเรียและเยเมนหยุดชะงัก และนักการทูตของยูเอ็น 2 คนได้ถูกส่งตัวไปริยาดเพื่อทำให้ความคืบหน้าทางการทูตไม่พังลง
ด้วยคำร้องขอของรัสเซีย ในวันนี้ (5) คณะมนตรีความมั่นคงจะหารือเรื่องความขัดแย้งในเยเมน หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียยุติการสงบศึกกับกลุ่มกบฏในประเทศนี้ที่มีอิหร่านหนุนหลัง