เอเจนซีส์ - ชาวตากาล็อกฝ่าความร้อนเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันจันทร์ (9) โดยมี “โรดริโก ดูเตอร์เต” นายกเทศมนตรีขาโหดสไตล์ดิบเถื่อนที่ถูกขนานนามว่า “ดูเตอร์เต แฮร์รี” และ “จอมลงทัณฑ์” เป็นผู้มีคะแนนนำในโพล 11% จากการประกาศจะสังหารอาชญากรนับหมื่นเพื่อยุติอาชญากรรมภายใน 6 เดือน รวมทั้งถอนรากถอนโคนการทุจริต
รายงานระบุว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวนมากต้องเข้าคิวรอกว่าชั่วโมงกว่าจะได้หย่อนบัตร แถมเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์หลายจุดขัดข้อง ซึ่งอาจทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่สามารถประกาศชื่อผู้ชนะภายใน 24 ชั่วโมงอย่างที่หวังไว้
บรรยากาศการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งคุกรุ่นไปด้วยความชิงชังต่อเหล่าผู้นำในรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ แม้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวเข้มแข็งตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ดูเตอร์เต นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา 7 สมัย ตั้งแต่ปี 1988 ผงาดขึ้นเป็นผู้สมัครเต็งหนึ่งด้วยบุคลิกแบบดิบเถื่อนถึงลูกถึงคน จนถูกเรียกขานว่า “ดูเตอร์เต แฮร์รี” ซึ่งมาจากตัวละคร “เดอร์ตี แฮร์รี” ของภาพยนตร์ชื่อเดียวกันเมื่อปี 1971 ที่นำแสดงโดย คลินต์ อีสวูด เกี่ยวกับตำรวจขาโหดที่ไล่เข่นฆ่าเหล่าร้าย
ดูเตอร์เตยังมีอีกฉายาว่า “จอมลงทัณฑ์” (the Punisher) คะแนนนิยมของนายกเทศมนตรีผู้นี้พุ่งพรวดจากการประกาศจะสังหารอาชญากรนับหมื่นเพื่อยุติอาชญากรรมให้ได้ภายใน 6 เดือนหากได้ตำแหน่งประธานาธิบดี ทั้งยังขู่สถาปนาระบอบเผด็จการหากถูกรัฐสภาตีรวน รวมถึงให้สัญญาอ้าแขนรับกบฏคอมมิวนิสต์
กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับดูเตอร์เต ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี เบนีโญ อากีโน เตือนว่าดูเตอร์เตจะพาฟิลิปปินส์ถอยหลังสู่ยุคมืดของเผด็จการ
มิเกล ไซจูโก นักเขียนที่ได้รับการยกย่องในฟิลิปปินส์ ระบุในบทความที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การใช้ภาพกำปั้นเป็นสัญลักษณ์การหาเสียงของดูเตอร์เต ซึ่งถูกกล่าวหาว่าส่งเสริมระบบศาลเตี้ยในดาเวานั้น แม้มีเป้าหมายที่ผู้ละเมิดกฎหมาย แต่ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนเหวี่ยงแหไปที่ระบอบคณาธิปไตยด้วย
ไซจูโกเสริมว่า ข้อความของดูเตอร์เตก้องกังวานในหมู่คนยากจนที่รู้สึกว่าถูกรัฐบาลละเลย อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วผู้สนับสนุนนายกเทศมนตรีผู้นี้เป็นประชาชนจากทุกชนชั้น ส่วนสโลแกน “การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น” ของดูเตอร์เตเป็นข้อความที่ถูกต้องตรงประเด็นโดนใจ แต่มาจากผู้ส่งสารที่ผิดคน
ส่วนตัวเก็งอันดับ 2 มี 2 คน คือ มานูเอล โรซาส แคนดิเดตคนโปรดของอากีโน กับวุฒิสมาชิก เกรซ โป
โรซาสที่ให้คำมั่นว่าจะผลักดันมาตรการปฏิรูปที่ล่าช้าภายใต้ยุคอากีโนประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างพลังประชาธิปไตยกับพลังเผด็จการ
ขณะที่ภูมิหลังการเป็นเด็กหญิงที่ถูกพ่อแม่นำไปทิ้งที่โบสถ์ และภายหลังได้รับอุปการะโดยนักแสดง ทำให้โปได้ใจคนฟิลิปปินส์จำนวนมาก ถึงกระนั้นคะแนนนิยมของโปตกวูบทันทีที่มีคนโจมตีว่าเธอเคยได้สัญชาติอเมริกันแม้จะยกเลิกในเวลาต่อมาก็ตาม
สัปดาห์ที่แล้วอากีโนเรียกร้องให้ผู้สมัครร่วมมือกันเพื่อสกัดดูเตอร์เต แต่ถูกปฏิเสธจากโป เนื่องจากถูกตีความว่าเป็นการเรียกร้องให้ถอนตัวและสนับสนุนโรซาส
ขณะเดียวกัน แม้กังวลเกี่ยวกับดูเตอร์เต แต่ยูเรเซีย กรุ๊ป บริษัทวิจัยความเสี่ยงระดับโลก ระบุในรายงานที่ออกมาก่อนการเลือกตั้งว่า ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มสานต่อนโยบายส่งเสริมการเติบโตและการปฏิรูปของอากีโน ไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีก็ตาม
ภายใต้การบริหารประเทศของอากีโน ซึ่งตามกฎหมายสามารถครองตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียวนาน 6 ปีนั้น อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจต่อปีของฟิลิปปินส์เฉลี่ยอยู่ที่ 6% โดยประมาณ ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเติบโตสูงสุดในเอเชีย
อย่างไรก็ตาม อากีโนถูกวิจารณ์ว่าไม่พยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบเศรษฐกิจที่เกื้อหนุนครอบครัวชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ ที่ควบคุมอุตสาหกรรมสำคัญเกือบทั้งหมดของประเทศ ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนมากที่สุดในเอเชีย
โรซาสนั้นก็มาจากหนึ่งในครอบครัวชนชั้นนำ ปู่ของเขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของฟิลิปปินส์ หลังปลดแอกจากอเมริกาสำเร็จในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ ข้อมูลระบุว่า กว่าครึ่งของประชากร 100 ล้านคนของฟิลิปปินส์ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกรัฐสภา 300 คน กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นราว 18,000 คน
ผู้สมัครในตำแหน่งเหล่านี้นอกจากนักการเมืองหน้าเดิมแล้ว ยังมีผู้บริหารธุรกิจ คนบันเทิง กระทั่งนักมวยระดับโลกอย่าง แมนนี ปาเกียว ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก
นอกจากนั้นยังมี “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายของอดีตผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส ที่ลงชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดี
ปกติแล้วการเลือกตั้งแดนตากาล็อกจะทำนายผลได้ยาก ทว่าการสำรวจความคิดเห็นของสองสำนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุตรงกันว่า ดูเตอร์เตได้คะแนนนำ 11% โดยมีผู้สนับสนุนจากทุกกลุ่มประชากรทางเศรษฐกิจและสังคม
ตามกำหนดการนั้น คูหาเลือกตั้งของฟิลิปปินส์ปิดเวลา 17.00 น. (16.00 น. ตามเวลาไทย) ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งระบุว่า อาจประกาศผลการนับคะแนนได้ในช่วงคืนวันจันทร์