เอเอฟพี - เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์และกลุ่มชนเผ่าติดอาวุธในฟิลิปปินส์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 16 รายในวันนี้ (15) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการปะทะครั้งนองเลือดที่สุดในรอบหลายปีของเหตุก่อกบฏที่ดำเนินมากว่าทศวรรษ กองทัพแถลง
กองกำลังกองทัพประชาชนใหม่ (NPA) ได้บุกโจมตีถิ่นอาศัยของ คัลปิโต อีกัว ในพื้นที่ห่างไกลของ มินดาเนา เกาะทางใต้ของแดนตากาล็อก แต่หัวหน้าชนเผ่าและพรรคพวกของเขาได้ตอบโต้กลับ พลตรี คริสเตียน วาย. (Christian Uy.) โฆษกกองทัพท้องถิ่น แถลง
“ดาตู (หัวหน้าเผ่า) ไม่ยินยอมทำตามข้อเรียกร้องขู่กรรโชกของพวกนั้น” เขาบอกต่อเอเอฟพี
ผู้เสียเชียชีวิตในเหตุปะทะครั้งนี้ ประกอบด้วย กลุ่มติดอาวุธ 13 คน ชาวบ้านชนเผ่า 2 คนและทหาร 1 นาย จากหน่วยทหารที่รุดไปช่วยคนของอีกัว โฆษกกองทัพเสริม
อีกัว ผู้นำท้องถิ่นของชนเผ่าบนภูเขามานาโบ และทหารนายหนึ่งก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในการสู้รบที่กินเวลา 2 ชั่วโมง วาย กล่าว
NPA คือหน่วยติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งเข้าร่วมการก่อกบฏมาตั้งแต่ปี 1969 โดยทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปแล้วหลายหมื่นราย
ปัจจุบัน เชื่อกันว่าพวกเขามีนักรบอยู่ราว 4,000 คน ลดลงมาจากมากกว่า 26,000 คนเมื่อช่วงทศวรรษ 1980
เท่าที่ผ่านมา เหตุปะทะและการโจมตีเล็กๆน้อยๆบ่อยครั้ง ซึ่งมักจะไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากนัก แต่การต่อสู้ในวันนี้ (15) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการปะทะครั้งนองเลือดที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
เมื่อปี 2012 กบฏ 11 คนเสียชีวิตในเหตุยิงปะทะกับกองกำลังความมั่นคงใกล้กรุงมะนิลา
ร้อยเอก อัลเบิร์ต เคเบอร์ โฆษกกองทัพประจำภูมิภาคที่เกิดเหตุสู้รบในวันนี้ กล่าวว่า กลุ่มกบฏในคราวนี้เป็นพวกโจรกรรโชกทรัพย์ชื่อกระฉ่อน
“พวกมัน (กบฏ) ขู่เข็ญและรังควาญสวนกล้วย ไร่สับปะรด และสวนยาง ตลอดจน ฟาร์มสัตว์ปีกและธุรกิจเหมืองแร่ ซึ่งนี่คือแหล่งเก็บเกี่ยวเสบียงของพวกเขา” เคเบอร์ บอกต่อเอเอฟพี
เขากล่าวว่า อีกัวและชนเผ่าของเขากำลังดำเนินกิจการเหมืองทองขนาดเล็ก แต่พวกเขาไม่ยอมจ่ายเงินให้พวกกบฏ
ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ กองกำลัง NPA ได้สังหารนายกเทศมนตรีเกาะมินดาเนาไปแล้ว 2 คน ในการซุ่มโจมตีข้างถนน
ประธานาธิบดี เบนิกโน อากีโน คาดหวังที่จะได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกบฏ ก่อนวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปีของเขาจะสิ้นสุดในปี 2016 แต่ทว่าการเจรจาสันติภาพตามแผนได้ถูกทำให้ต้องหยุดชะงักด้วยข้อเรียกร้องของกลุ่มกบฏที่ต้องการให้ปล่อยตัว “สมาชิก” ของพวกเขาที่ถูกกักขังอยู่ให้เป็นอิสระ