เอเจนซีส์ - สหประชาชาติขอร้องในวันอังคาร (12 พ.ย.) ให้นานาชาติช่วยกันบริจาคเงินเป็นจำนวน 301 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยผู้ประสบภัยจากมหาพายุไต้ฝุ่นในฟิลิปปินส์ ขณะที่ประเทศต่างๆ กำลังระดมทรัพยากรบรรเทาทุกข์ครั้งมโหฬาร กระนั้นการปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ซึ่งดำเนินไปด้วยความยากลำบากอยู่แล้วจากเส้นทางและระบบสื่อสารถูกตัดขาด ยังถูกขัดขวางจากกลุ่มกบฏติดอาวุธที่ดักซุ่มโจมตีขบวนลำเลียงความช่วยเหลือในตาโกลบาน เมืองที่ถูก “ไห่เยี่ยน” ถล่มหนักหน่วงย่อยยับที่สุด
วาเลอรี อามอส รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายกิจการมนุษยธรรม เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (12) ว่า ทางยูเอ็นเพิ่งเริ่มดำเนินการแผนปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในฟิลิปปินส์ โดยร่วมมือกับรัฐบาลแดนตากาล็อก ทั้งนี้จะมุ่งเน้นด้านอาหาร สาธารณสุข สุขาภิบาล ที่พักพิง การเคลื่อนย้ายซากปรักหักพัง รวมทั้งการปกป้องผู้ที่อ่อนแอที่สุด พร้อมกันนั้นเธอระบุว่า ต้องการขอรับบริจาคเงิน 301 ล้านดอลลาร์สำหรับแผนปฏิบัติการคราวนี้
อามอสกล่าวชื่นชมปฏิกิริยาของนานาชาตินับจากที่ไต้ฝุ่นยักษ์ไห่เยี่ยนถล่มฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ (8) แต่สำทับว่า ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติครั้งร้ายแรงนี้ที่ยูเอ็นกังวลว่า อาจมีผู้เสียชีวิตถึง 10,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบกระเทือนจากไต้ฝุ่นลูกนี้ก็น่าจะมีสูงถึงเกือบๆ 10 ล้านคน หรือราว 10% ของประชากรทั่วทั้งฟิลิปปินส์
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสูงสุดทางด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นผู้นี้บอกว่า “เวลานี้ การแจกจ่ายสิ่งจำเป็นเฉพาะหน้ายังทำได้ยากเย็นอย่างยิ่ง เนื่องจากประสบปัญหาในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยบางแห่ง”
นอกจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและการคมนาคมขนส่งที่เสียหายอย่างหนักจากไห่เยี่ยน ปฏิบัติการกู้ภัยและให้ความช่วยเหลือยังถูกขัดขวางจากกลุ่มติดอาวุธ โดยในวันอังคาร (12) สมาชิกกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์ 15 คนได้ซุ่มโจมตีขบวนลำเลียงความช่วยเหลือไปสู่ตาโกลบาน เมืองที่ถูกไต้ฝุ่นถล่มหนักที่สุด
อย่างไรก็ดี กองกำลังฟิลิปปินส์ที่ร่วมขบวนไปด้วยได้ยิงตอบโต้ ทำให้กลุ่มกบฏเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 1 คน
ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ ได้ประกาศใช้ภาวะภัยพิบัติทั่วประเทศตั้งแต่คืนวันจันทร์ (11) ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจในการควบคุมราคาสินค้า ตลอดจนเบิกจ่ายงบประมาณฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับการรักษาความสงบในเขตภัยพิบัติโดยเฉพาะที่เมืองตาโกลบาน ทางการประกาศมาตรการห้ามประชาชนออกนอกบ้านในยามวิกาลในเมืองเอกของเกาะเลย์เตแห่งนี้ อีกทั้งยังจัดส่งกองกำลังปฏิบัติการพิเศษ 500 คน พร้อมยานยนต์หุ้มเกราะ 4 คัน ลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจทั่วเมืองเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย หลังเกิดเหตุฉกชิงปล้นห้างร้านบ้านเรือนวุ่นวายโดยผู้รอดชีวิตที่ขาดแคลนน้ำ อาหาร และยา ตลอดจนถึงมิจฉาชีพที่จ้องฉวยโอกาส
ตำรวจเปิดเผยว่า สมาชิกสภาท้องถิ่นบางคนเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าฉกชิงสิ่งของจากร้านค้า โดยอ้างว่าเพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ประชาชน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตาโกลบานอยู่ในสภาพเหมือนเป็นเมืองร้าง ร่างผู้เสียชีวิตมากมายยังเกลื่อนกลาดบนท้องถนน แม้ภัยพิบัติร้ายผ่านไปแล้ว 4 วัน
ในส่วนความช่วยเหลือจากนานาชาตินั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ คาดว่า เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน พร้อมลูกเรือ 5,000 นาย และเครื่องบินกว่า 80 ลำ ตลอดจนเรือรบอื่นๆ อีก 5 ลำในหมู่เรือเดียวกัน จะเดินทางจากฮ่องกงที่กำลังไปแวะเยือน ไปถึงฟิลิปปินส์ได้ภายใน 2 วัน เพื่อสมทบกับนาวิกโยธิน 180 คนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฟิลิปปินส์
นอกจากนี้อเมริกายังมอบเงินช่วยเหลือเร่งด่วนให้แก่ทางการมะนิลามูลค่า 20 ล้านดอลลาร์
ด้านอังกฤษเพิ่มเงินช่วยเหลือเป็น 10 ล้านปอนด์ และนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แถลงว่า เรือพิฆาต เอชเอ็มเอส ดาริง จะออกจากสิงคโปร์และตรงไปยังฟิลิปปินส์ด้วยความเร็วเต็มพิกัด เพื่อร่วมกับเครื่องบินขนส่งซี-17 ของกองทัพอากาศ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยไห่เยี่ยน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศ เป็นต้นว่า ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป หรือแม้แต่ประเทศที่มีเหตุกระทบกระทั่งกับฟิลิปปินส์ อย่างจีน และไต้หวัน ร่วมกันบริจาคความช่วยเหลือรวมเป็นมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ และกระทั่งเวียดนามที่เป็นทางผ่านของไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเช่นเดียวกัน ยังเสนอความช่วยเหลือ 100,000 ดอลลาร์ และประกาศยืนเคียงข้างชาวตากาล็อก
บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น แถลงว่า ในอีกไม่กี่วันนี้จำเป็นต้องมีการขยายปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่องค์การกาชาดสากลร้องขอเงินบริจาคเกือบ 95 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดหาอาหาร น้ำ และที่พักพิงให้แก่ผู้ประสบภัย 100,000 คนในระยะเวลา 18 เดือน