โลซิงฮาน “ราชาเฮโรอีนพม่า” เสียชีวิตแล้ว

.

เอเอฟพี - โล ซิง ฮาน (Lo Hsing Han) บุคคลผู้อื้อฉาวที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตรัฐบาลทหารพม่า หรือที่สหรัฐฯ ให้ฉายาว่า “เจ้าพ่อเฮโรอีน” จากการค้ายาเสพติดนานหลายสิบปี ได้สิ้นลมแล้วในวัย 80 ปี ตามการประกาศของครอบครัวในวันนี้ (8)

โล ซิง ฮาน พ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 รอดพ้นจากโทษประหารในช่วงต้นของอาชีพค้ายา และสร้างตัวเองเป็นนักธุรกิจเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของพม่า

โล ซิง ฮาน ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คว่ำบาตร ตั้งแต่ปี 2551 พร้อมกับนายสตีเวน ลอว์ ที่้เป็นบุตรชาย และหุ้นส่วนทางธุรกิจ และทั้งคู่ยังถูกหมายหัวว่าเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลทหารพม่าอันเนื่องจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้นกับอดีตนายพลหลายนาย

ในการประกาศข่าวมรณกรรมในสื่อของทางการพม่า ครอบครัวของนายโล ซิง ฮาน ระบุว่า นายโล ซิง ฮาน ได้เสียชีวิตในคืนวันเสาร์ (6) และพิธีศพจะจัดขึ้นที่นครย่างกุ้งวันที่ 17 ก.ค. นี้

รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรพม่าได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ นายโล ซิง ฮาน ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เมียนมาร์อาลิน และเดอะมิร์เรอร์

นายโล ซิง ฮาน มีชื่อเสียงโดดเด่นขึ้นมาในช่วงเวลาที่พม่า และดินแดนของประเทศเพื่อนบ้านที่เรียกว่า “สามเหลี่ยมทองคำ” เป็นศูนย์กลางการผลิตเฮโรอีนโลก

“โล ซิง ฮาน หรือที่รู้จักในชื่อเจ้าพ่อเฮโรอีน เป็นหนึ่งในผู้ค้ายาเสพติดเฮโรอีนรายสำคัญของโลก ตั้งแต่ในยุคต้นทศวรรษ 1970” สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุในปี 2551

เจ้าพ่อยาเสพติดรายนี้ถูกจับกุมตัวในปี 2516 และถูกตัดสินประหาร แต่ในปี 2523 โล ซิง ฮาน ได้รับอภัยโทษ และไม่ถึง 10 ปีต่อมา โล ซิง ฮาน ได้ช่วยรัฐบาลทหารเจรจากับกบฏคอมมิวนิสต์

ในปี 2535 โล ซิง ฮาน ได้ก่อตั้งธุรกิจ Asia World ที่กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดของพม่า ที่ได้มาจากสัญญาสัมปทานจำนวนมากของรัฐบาลทหาร

“บริษัท Asia World ได้ให้การสนับสนุนต่อรัฐบาลพม่า และได้รับสัมปทานจากรัฐบาลจำนวนมาก ที่รวมทั้งการก่อสร้างท่าเรือ ทางหลวง และอาคารสำนักงานของรัฐบาล” กระทรวงการคลัง สหรัฐฯ ระบุ และว่า นายสตีเวน ลอว์ เข้าร่วมในอาณาจักรยาเสพติดของผู้พ่อในช่วงทศวรรษ 1990 และนับแต่นั้นก็ได้กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในพม่า

พม่ายังคงเป็นผู้ผลิตฝิ่นรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากอัฟกานิสถาน หรือมีสัดส่วนเป็น 10% ของการผลิตทั้งหมดในโลก ตามรายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ.