เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ขอขยายเวลาทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดออกไปอีก 6 เดือน โดยระบุว่าผู้ที่พัวพันกับการค้ายานรกนั้นมีมากมายเสียจน “ฆ่าไม่รู้จักหมด”
จากสถิติล่าสุดพบว่า มีผู้ถูกสังหารไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 คนนับตั้งแต่ ดูเตอร์เต ชนะศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเดือน พ.ค. ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่าจะทำให้แดนตากาล็อกปลอดจากยาเสพติดให้ได้ภายใน 6 เดือน
“ผมไม่เคยคิดเลยว่า ปัญหายาเสพติดในสาธารณรัฐของเราจะรุนแรงร้ายกาจถึงขั้นนี้ จนกระทั่งได้มาเป็นประธานาธิบดี” ดูเตอร์เต วัย 71 ปี แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (18 ก.ย.) ที่เมืองดาเวา
เขาอธิบายว่า การทำสงครามกับผู้ค้ายาเสพติดก็เหมือน “ปล่อยหนอนออกมาจากกระป๋อง” และขอเวลาเพิ่ม “อีกสัก 6 เดือน” เพื่อทำภารกิจนี้ให้ลุล่วง
“ต่อให้ผมอยากจะทำ ผมก็ฆ่าพวกเขาได้ไม่หมด เพราะรายงานมันจะออกมาหนาเตอะขนาดนี้” ดูเตอร์เตกล่าว โดยหมายถึงข้อมูลของตำรวจซึ่งเปิดโปงรายชื่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่พัวพันกับเครือข่ายค้ายาเสพติด
ตำรวจฟิลิปปินส์ระบุว่า มีผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดถูกวิสามัญฆาตกรรมไปทั้งสิ้น 1,015 คนภายในระยะเวลา 2 เดือนเศษหลังจาก ดูเตอร์เต เข้าบริหารประเทศ ส่วนอีก 2,035 คนนั้นถูกสังหารโดยคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเตือนว่า ยอดผู้ถูกสังหารที่มากมายเช่นนี้เกิดจากคำพูดของ ดูเตอร์เต ที่ยุยงให้ประชาชนสังหารบุคคลต้องสงสัยเพื่อช่วยเหลือรัฐบาล
ยุทธศาสตร์ปราบปรามยาเสพติดที่สุดโต่งของ ดูเตอร์เต เรียกเสียงประณามจากทั้งสหรัฐฯ รัฐสภายุโรป รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการใช้ระบบศาลเตี้ย
ดูเตอร์เต ไม่เพียงปฏิเสธเสียงวิจารณ์ แต่ยังด่าทอประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ว่า “ลูกกะหรี่” แม้แต่เลขาธิการสหประชาติ บัน คีมูน ก็ยังถูกดูหมิ่นว่า “โง่เขลา”
นโยบายของดูเตอร์เตนั้นได้รับความนิยมอย่างสูงจากคนในประเทศ ซึ่งทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลพุ่งสูงลิ่ว
นักการเมืองฝีปากกล้าผู้นี้ขู่จะสังหารอาชญากรในฟิลิปปินส์ให้ถึง 100,000 คน และจะเอาศพคนเหล่านั้นไปทิ้งในอ่าวมะนิลา “เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงปลาให้อ้วน”
ดูเตอร์เต ให้สัญญาจะปกป้องตำรวจและทหารจากการถูกเอาผิดฐานเข่นฆ่าอาชญากร มิหนำซ้ำยังเรียกร้องให้ประชาชนทั่วไปและกบฏคอมมิวนิสต์เข้าร่วมในศึกนองเลือดนี้
เขายืนยันว่ารัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาด เพื่อไม่ให้ฟิลิปปินส์ต้องกลายเป็น “รัฐยาเสพติด” (narco-state)
ดูเตอร์เต ยังได้แถลงความสำเร็จในการช่วยชีวิต คยาร์ทัน เซ็กกิงสตัด (Kjartan Sekkingstad) ชายชาวนอร์เวย์ซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธ “อาบูไซยาฟ” จับเป็นตัวประกันนานถึง 1 ปี โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับพลเมืองแคนาดา 2 คนที่ถูกฆ่าตัดหัวไปก่อนหน้านี้