รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - พันธมิตรรัฐบาลผสมของมาเลเซีย สามารถรักษาชัยชนะอันงดงามถล่มทลาย ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของรัฐซาราวัก ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว เมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ภายหลังการรณรงค์หาเสียงที่นำโดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้กำลังเผชิญกรณีอื้อฉาวพัวพันความไม่ชอบมาพากลของกองทุนรัฐที่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง
ผลการเลือกตั้งซึ่งประกาศออกมาในตอนดึกวันเสาร์ (7) แสดงให้เห็นว่า พันธมิตรรัฐบาลผสมที่ใช้ชื่อว่า “แนวร่วมแห่งชาติ” (Barisan Nasional ใช้อักษรย่อว่า BN) ซึ่งมีพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ของ ราซัค เป็นแกนนำ สามารถขยายฐานะการครองเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติของรัฐซาราวัก โดยกวาดไป 72 ที่นั่ง จากทั้งสภา 82 ที่นั่ง เป็นที่คาดหมายได้ว่า นายกรัฐมนตรีราซัค จะใช้ผลโหวตนี้มาเป็นหลักฐานว่าเขายังเป็นผู้นำที่ได้รับความสนับสนุนรับรองจากประชาชน
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะคราวนี้ของบีเอ็น เห็นกันโดยทั่วไปว่ าต้องยกเครดิตให้แก่ อาเดนัน ซาเตม มุขมนตรีรัฐซาราวัก ผู้ขึ้นกุมบังเหียนรัฐนี้มาตั้งแต่ปี 2014 และได้รับความนิยมชื่นชอบอย่างกว้างขวาง
ผู้ออกเสียงชาวซาราวักพากันเทคะแนนให้ อาเดนัน ซึ่งถูกมองว่าเป็นพันธมิตรของนาจิบ หลังจากที่ผู้นำของซาราวักรายนี้พยายามเจรจาต่อรองเพื่อให้รัฐที่มั่งคั่งร่ำรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้มีสิทธิปกครองตนเองเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งพยายามแก้ไขประเด็นปัญหาที่คั่งค้างมายาวนาน เช่น การรับรองสิทธิในที่ดินของชนพื้นเมือง
พวกที่วิพากษ์วิจารณ์นาจิบ พากันกล่าวว่า ผลเลือกตั้งที่ซาราวักไม่สามารถใช้เป็นมาตรวัดความสนับสนุนที่ นาจิบ หรือพรรครัฐบาล ได้รับจากประชาชนทั่วประเทศ เนื่องจากประเด็นที่ต่อสู้กันในการรณรงค์หาเสียงที่ซาราวักนั้นเป็นประเด็นระดับท้องถิ่น
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นาจิบ ต้องเผชิญต่อเสียงเรียกร้องให้เขาก้าวลงจากตำแหน่ง ภายหลังมีรายงานข่าวเปิดโปงว่า มีเงินสูงลิบถึง 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรากฏอยู่ในบัญชีเงินฝากธนาคารของเขา ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วประเทศในปี 2013 ตลอดจนรายงานข่าวความไม่โปร่งใสของเขาในการจัดการกับกรณีฉาวโฉ่เกี่ยวกับเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่โยงใยกับ 1 มาเลเซีย ดีเวลอปเมนต์ เบอร์ฮาด (1Malaysia Development Berhad ใช้อักษรย่อว่า 1MDB) กองทุนภาครัฐซึ่งนาจิบผลักดันให้ก่อตั้งขึ้น
นาจิบ ยืนกรานปฏิเสธว่าเขาไม่ได้กระทำความผิดใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับกระชับรวมศูนย์อำนาจ ด้วยการปลดพวกที่คัดค้านเขาซึ่งอยู่ภายในพรรคอัมโน ตลอดจนใช้อำนาจตามกฎหมายปลุกปั่นยุยงให้ต่อต้านรัฐบาล มาสยบเล่นงานพวกที่คอยวิพากษ์วิจารณ์เขาคนอื่นๆ
การที่พันธมิตรบีเอ็น กวาดคะแนนเสียงไปได้ท่วมท้นในซาราวักเช่นนี้ ยังมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการแตกแยกภายในพันธมิตรฝ่ายค้าน ที่ใช้ชื่อว่า ปาตากัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan)
ทั้งนี้ พรรคกิจประชาธิปไตย (Democratic Action Party หรือ DAP) ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อจีน และในการเลือกตั้งระดับรัฐคราวที่แล้วเมื่อปี 2011 ได้มา 12 ที่นั่ง ปรากฏว่า เที่ยวนี้ได้เพียง 7 ที่นั่ง ขณะที่พรรคยุติธรรมประชาชน (People's Justice Party หรือ PKR) ของ อันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำฝ่ายค้านที่ถูกจองจำอยู่ในคุกเวลานี้ ก็แค่รักษาที่นั่งจำนวน 3 ที่นั่งของตนเอาไว้ได้
ชัยชนะของบีเอ็นในวันเสาร์ (7) ยังบังเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงร้องเรียนของพวกผู้นำฝ่ายค้านในระดับชาติ ว่า ถูกเอาเปรียบเล่นไม่ซื่อ จากการที่รัฐบาลรัฐซาราวักซึ่งมีอำนาจในด้านการตรวจคนเข้าเมืองในดินแดนของตน ได้ห้ามบุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่เข้าซาราวัก ในช่วงการรณรงค์หาเสียง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าวันเลือกตั้ง
ฝ่ายค้านยังกล่าวหา นาจิบ และพันธมิตรบีเอ็น ว่า ใช้อำนาจรัฐบาลอย่างมิชอบในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการให้สัญญาจัดทำโครงการ และการลงทุนต่างๆ ในซาราวักคิดเป็นมูลค่าราว 3,500 ล้านริงกิต