รอยเตอร์ - อาเดล อัล-ญุเบร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย แถลงยืนยันว่าเงินสด 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ไปโผล่อยู่ในบัญชีส่วนตัวของผู้นำมาเลเซียเป็น “เงินบริจาค” จากรัฐบาลซาอุฯ จริง สื่อทางการเสือเหลืองรายงานวันนี้ (15 เม.ย.)
นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ต้องเผชิญมรสุมข่าวเรื่องการทุจริต หลังสื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อปีที่แล้วว่า เงินสดเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ที่ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขามาจากกองทุน วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ซึ่งเป็นกองทุนของรัฐที่มีวัตถุประสงค์เพื่ออุดหนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
นาจิบยืนกรานมาโดยตลอดว่า ก้อนนี้เป็นเงินจากผู้บริจาคต่างชาติ และไม่ได้ยักยอกมาจาก 1MDB อย่างแน่นอน
“รัฐบาลซาอุฯ รับรู้เรื่องเงินบริจาคก้อนนี้ และเป็นเงินที่เราให้ไปโดยไม่หวังผลตอบแทน เรายังทราบด้วยว่าอัยการสูงสุดมาเลเซียได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน และไม่ได้มีการกระทำผิดใดๆ เลย” สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียอ้างคำแถลงของ อัล-ญุเบร์ ระหว่างเดินทางไปร่วมการประชุมขององค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่นครอิสตันบูล
“ในส่วนที่เกี่ยวข้องรัฐบาลซาอุฯ เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยอะไรอีก” เขากล่าวเสริม
รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวมาเลเซีย หลังผ่านการหารือนอกรอบร่วมกับ นาจิบ
1 MDB ซึ่งมี นาจิบ เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา กำลังถูกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายใน 5 ประเทศตรวจสอบ เนื่องจากมีข้อครหาเรื่องการรับสินบนและการบริหารจัดการที่ไม่โปร่งใส
สัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน (Public Accounts Committee - PAC) ของมาเลเซียได้ออกรายงานตำหนิบอร์ด 1MDB ว่าไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และขอให้นำตัว ชาห์โรล อัซราล อิบรอฮีม ฮัลมี อดีตซีอีโอมาสอบสวน แต่ไม่พาดพิงถึงตัวนายกรัฐมนตรี
เมื่อต้นปีนี้ อัยการสูงสุดมาเลเซียประกาศยืนยันว่าเงินสดจำนวน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ไปโผล่อยู่ในบัญชีส่วนตัวของนาจิบเป็น “เงินบริจาค” จากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ทว่า ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่รับไม่ได้กับข้อสรุปนี้ โดยเชื่อว่าเป็นความพยายามฟอกขาวเพื่อช่วยให้นายกฯ รอดจากการถูกดำเนินคดีมากกว่า