ลือหึ่ง! “ผู้นำมาเลเซีย” ใช้อิทธิพลบีบบุตรชาย “มหาธีร์” พ้นตำแหน่งมุขมนตรีรัฐเกดะห์

เอเอฟพี - มุคริซ มหาธีร์ บุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรี มหาธีร์ โมฮาหมัด ผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย ประกาศลาออกจากตำแหน่งมุขมนตรีรัฐเกดะห์ในวันนี้ (3 ก.พ.) ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าเขากลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ถูกนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก ใช้อิทธิพลกำจัดให้พ้นทางในฐานะ “ศัตรูทางการเมือง”

สื่อมาเลเซียรายงานว่า มุคริซ ตัดสินใจสละตำแหน่งมุขมนตรี หลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากสมาชิกภายในพรรคอัมโน

นักการเมืองหนุ่มใหญ่ผู้นี้ถูกจับตามองว่าเป็น “ลูกไม้ใต้ต้น” ของ มหาธีร์ ซึ่งอาจก้าวขึ้นไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ในอนาคต ทว่าดวงดาวทางการเมืองของ มุคริซ ก็เริ่มจะอับแสง หลังจากบิดาของเขาประกาศตัวเป็นศัตรูกับ นาจิบ และมุ่งมั่นที่จะโค่นผู้นำเสือเหลืองคนปัจจุบันให้ได้

นาจิบ ต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังมีข่าวว่าเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกยักย้ายถ่ายโอนออกไปจากกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) อย่างเป็นปริศนา และสื่อในสหรัฐฯ ก็ออกมาเปิดโปงว่า มีเงินสดประมาณ 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปโผล่อยู่ในบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนายกฯ นาจิบ

อย่างไรก็ตาม ทาง 1MDB รวมถึง นาจิบ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการที่ปรึกษากองทุน ต่างยืนยืนว่าไม่มีการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น

หลังเรื่องเงินกองทุนถูกเคลื่อนย้ายถูกเปิดโปงได้ไม่นาน นาจิบก็ได้สั่งปลดรองนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน และคณะรัฐมนตรีอีกหลายคนที่เรียกร้องให้เขาออกมาอธิบายเรื่องนี้ให้กระจ่าง ทั้งยังปลด อับดุล กอนี ปาเตล อัยการสูงสุดที่เป็นผู้ทำคดี และให้บุคคลซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคอัมโนขึ้นมารับตำแหน่งแทน

มุคริซ วัย 51 ปี นับเป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคอัมโนรายล่าสุดที่ถูกกลุ่มของ นาจิบ เขี่ยให้พ้นทาง

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา โมฮาเหม็ด อาปันดี อาลี อัยการสูงสุดที่ นาจิบ แต่งตั้งเองกับมือ ออกมาประกาศยืนยันว่าเงินสดจำนวน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบัญชีส่วนตัวของนายกฯ เป็น “เงินบริจาค” จากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเท่ากับล้างข้อหาทุจริตให้แก่ นาจิบ โดยปริยาย แต่ถึงกระนั้นชาวมาเลเซียส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เชื่อถือข้อสรุปนี้ และมองว่าเป็นความพยายามฟอกขาวนายกฯ เพื่อช่วยให้รอดจากการถูกดำเนินคดีเท่านั้น

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ได้เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของ 1MDB ขณะที่ทางการสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกง ก็กำลังเร่งสอบสวนคดีฟอกเงินที่อาจเกี่ยวพันกับกองทุนแห่งนี้