“ทรัมป์” หนทางสดใส - “ครูซ” ยกธงขาว “คลินตัน” ยังนำไกลแม้พ่ายที่อินดีแอนา

เอเจนซีส์ – โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีนี้แทบจะแน่นอนแล้ว หลังจากในวันอังคาร (3 พ.ค.) กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นที่มลรัฐอินดีแอนา จนทำให้คู่แข่งตัวจริงเพียงคนเดียวในพรรคคือ เท็ด ครูซ ตัดสินใจประกาศถอนตัวจากการแข่งขันแล้ว สำหรับด้านเดโมแครตนั้น ถึงแม้ เบอร์นี แซนเดอร์ส เข้าวินในรัฐดังกล่าว แต่ฮิลลารี คลินตัน ยังมีคะแนนรวมนำหายห่วง

“เรากำลังจะคว้าชัยชนะในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นชัยชนะเด็ดขาด และอเมริกาจะต้องมาก่อน” ทรัมป์ประกาศท่ามกลางผู้สนับสนุนที่ไปรวมตัวกันที่อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์ก หลังมีชัยในอินดีแอนา ซึ่งถือเป็นการชนะเลือกตั้งขั้นต้นเป็นรัฐที่ 7 ติดต่อกัน รวมทั้งที่สมรภูมิแห่งนี้ยังถือเป็น “กำแพงไฟ” แนวสุดท้ายซึ่งขบวนการ “หยุดยั้งทรัมป์” หวังที่จะยับยั้งไม่ให้เขาได้เสียงตัวแทนผู้ลงคะแนนถึงครึ่งหนึ่ง ก่อนหน้าการประชุมใหญ่ของรีพับลิกันในเดือนกรกฎาคม

ครูซ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากมลรัฐเทกซัส ออกมายอมรับในวันอังคาร (3) ไม่เห็นหนทางที่เป็นไปได้ในการได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรค และขอถอนตัวจากการแข่งขัน เขากล่าวเช่นนี้ในขณะที่ผลการเลือกตั้งขั้นต้นที่อินดีแอนาชี้ชัดว่าเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แก่ทรัมป์อย่างยับเยิน โดยที่เขาได้เพียง 36.6% เปรียบเทียบกับทรัมป์ซึ่งกวาดไปราว 53.3% และคาซิกได้คะแนนจุ๋มจิ๋ม 7.6%

“เราทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ที่สมรภูมิในอินดีแอนา” ครูซกล่าว “เราทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี ทว่าผู้ออกเสียงเลือกที่จะเดินไปในอีกเส้นทางหนึ่ง”

“ดังนั้น ด้วยหัวใจที่แสนจะหนักอึ้ง ทว่าด้วยความรู้สึกอันกว้างไกลไร้ขอบเขตแห่งการมองโลกในแง่ดีต่ออนาคตในระยะยาวของประเทศชาติของเรา เราจึงกำลังหยุดพักชะลอการรณรงค์ของเราเอาไว้ก่อน”

มันเป็นการประกาศจุดจบที่สร้างความตะลึงงัน เนื่องจากวุฒิสมาชิกแนวความคิดอนุรักษนิยมสุดขั้วผู้นี้ ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าเขาจะแข่งขันชิงชัยเพื่อเป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกันไปจนกระทั่งถึงวันสุดท้าย

การถอยออกมาของเขาทำให้เหลือเพียง จอห์น คาซิก ผู้ว่าการมลรัฐโอไฮโอ ซึ่งได้คะแนนนิยมต่ำมากเท่านั้น ที่ยังคงยืนกรานเป็นคู่แข่งขันของทรัมป์ เพื่อให้ได้เป็นตัวแทนรีพับลิกันลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้

ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า เมื่อถึงวันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดเลือกตั้งขั้นต้นของฝ่ายรีพับลิกัน โดยที่จะมีการชิงชัยใน 5 มลรัฐและหนึ่งในนั้นคือแคลิฟอร์เนีย รัฐใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯนั้น ทรัมป์จะได้ตัวแทนผู้ออกเสียงเกินครึ่งตามที่ต้องการ

ถึงตอนนี้ อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ผู้นี้ สามารถเตรียมตัวแข่งขันกับคลินตัน ตัวเก็งจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 8 พฤศจิกายนอย่างเต็มที่ โดยมีความท้าทายเฉพาะหน้าคือ การประสานรอยร้าวภายในพรรครีพับลิกัน เนื่องจากกลุ่มผู้จงรักภักดีต่อพรรคจำนวนมากหวาดกลัวกับพฤติกรรมชอบระราน การปฏิบัติต่อผู้หญิง และข้อเสนอสร้างกำแพงตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโก รวมทั้งเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย 11 ล้านคนของทรัมป์

เฮนรี่ บาร์เบอร์ ผู้นำคนหนึ่งคณะกรรมการกลางของรีพับลิกัน เรียกร้องให้พรรคเป็นหนึ่งเดียวหากต้องการชนะในเดือนพฤศจิกายน และสำทับว่า ทรัมป์เป็นคนที่ต้องทำให้พรรคเป็นปึกแผ่น เนื่องจากขณะนี้ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกเขาแล้ว

ขณะที่ เรนซ์ พรีบัส ประธานคณะกรรมการกลางของรีพับลิกัน ประกาศว่า ทรัมป์เป็น “ผู้ที่สันนิษฐานได้ว่า” จะได้เป็นตัวแทนของพรรค เขายังทวิตต่อไปโดยเรียกร้องให้สามัคคีกันและมุ่งมั่นในการเอาชนะคลินตัน

กระนั้น กลุ่มต่อต้านทรัมป์ยังไม่ยอมรามือง่ายๆ แลนฮี เฉิน ที่เคยให้คำปรึกษามาร์โค รูบิโอ อดีตผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน อวดอ้างว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่พรรคจะเสนอชื่อบุคคลที่สามเพื่อโหวตเลือกในการประชุมใหญ่วันที่ 18-21 กรกฎาคมที่คลีฟแลนด์ ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเคซิกสามารถขัดขวางไม่ให้ทรัมป์ได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนตามเป้าหมาย 1,237 คนก่อนการประชุมใหญ่เท่านั้น

การประกาศล่าถอยของคู่แข่งคนสำคัญเช่นนี้ ทำให้เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ลดท่าทีก้าวร้าวลงชั่วขณะ และยอมรับว่า ครูซเป็นคู่แข่งที่เอาชนะยาก เป็นคนฉลาดและจะมีอนาคตที่น่าทึ่ง เขายังหว่านล้อมคนแอฟริกัน-อเมริกันและพวกฮิสปานิกด้วยการรับประกันการจ้างงาน และให้คำมั่นจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ทรัมป์ประกาศว่า อินดีแอนาเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และโจมตีคลินตันโดยไม่รีรอว่า อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศผู้นี้ไม่มีทางเป็นประธานาธิบดีที่ดีได้และไม่มีความเข้าใจในเรื่องการค้า

เช่นเดียวกัน แม้เสียจังหวะไปบ้างจากการพ่ายแพ้ให้แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากเวอร์มอนต์ ด้วยคะแนน 46.8% ต่อ 53.2% ที่รัฐอินดีแอนา แต่คลินตันซึ่งยังมีคะแนนำหลายช่วงตัว ส่งสัญญาณว่า พร้อมต่อกรกับทรัมป์ทุกเมื่อ โดยเมื่อวันอังคาร จอห์น โปเดสตา ที่ปรึกษาของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ แถลงว่า ตลอดการหาเสียงที่ผ่านมา ทรัมป์แสดงให้เห็นว่า เขาพยายามรังแกและทำให้คนอเมริกันแตกแยกกัน ไม่สามารถระงับอารมณ์ซึ่งจำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำประเทศและโลกเสรี ทรัมป์จึงถือเป็นเดิมพันที่เสี่ยงเกินไป

ทั้งนี้ ตามการรวบรวมของสำนักข่าวเอพี ทรัมป์ได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนอย่างน้อย 51 คนจาก 57 คนในรัฐอินดีแอนา ทำให้มีตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้งหมด 1,047 คน จากที่ต้องการ 1,237 คนเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ขณะที่คู่แข่งที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวคือเคซิก มีเพียง 153 คน ส่วนครูซมี 565 คนก่อนประกาศถอนตัว

สำหรับเดโมแครตนั้น คลินตันมีตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้งสิ้น 2,202 คน จากที่ต้องการ 2,383 คน และแซนเดอร์สมี 1,400 คน