เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) บริษัทแป้งเด็กชื่อดัง “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ถูกศาลรัฐมิสซูรีสั่งปรับ 55 ล้านดอลลาร์ หลัง กลอเรีย ริสเตซูนด์ (Gloria Ristesund) ผู้บริโภคสาวชาวสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง อ้างใช้แป้งเด็กจอห์นสันบริเวณอวัยวะเพศเพื่อสุขอนามัยส่วนตัว แต่กลับทำให้ป่วยด้วยโรคมะเร็งรังไข่
NBC NEWS รายงานเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ว่า คำพิพากษาออกมาในวันจันทร์ (2 พ.ค.) สั่งให้บริษัทผลิตแป้งเด็ก ดัง “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 55 ล้านดอลลาร์ แต่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประกาศลั่นจะยื่นขออุทธรณ์คดีต่อไปอย่างแน่นอน
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า นี่ถือเป็นการที่บริษัทแป้งเด็กสัญชาติสหรัฐฯ แพ้คดี 2 ครั้งติด โดยทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ถูกยื่นฟ้องถึง 1,200 คดี กล่าวหาว่าทางบริษัทไม่มีคำประกาศคำเตือนอย่างเพียงพอให้ผู้บริโภคได้รับทราบว่า “ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กของทางบริษัทสามารถทำให้ผู้ใช้เสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคมะเร็งไข่ได้”
ทั้งนี้ ในการไต่สวนระยะเวลา 3 สัปดาห์ของศาลรัฐมิสซูรี บรรดาคณะลูกขุนในคดีนี้ได้ใช้เวลา 1 วันเต็มในการพิจารณาก่อนที่จะออกคำตัดสินให้แก่กลอเรีย ริสเตซูนด์ ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ ที่เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง และในคำตัดสิน เธอได้รับค่าชดเชย 5 ล้านดอลลาร์ และอีก 50 ล้านดอลลาร์สำหรับค่าปรับที่ทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทำให้เกิดความเสียหาย
แต่ทว่า โฆษกของบริษัทแป้งเด็ก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แครอล กูดริช (Carol Goodrich) ได้ออกมาโต้ในคำตัดสินว่า คำพิพากษาขัดแย้งกับผลวิจัย 30 ปีของทางบริษัทที่ทำขึ้นเพื่อเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ซึ่งทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป และจะยังคงปกป้องมาตรฐานความปลอดภัยผลิตภัณฑ์แป้งเด็กของทางบริษัทในทุกวิถีทาง
NBC NEWS รายงานว่า ริสเตซูนด์โจทก์ผู้ยื่นฟ้องได้เปิดเผยว่า เธอได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีสารทาล์ก (talc) เป็นตัวหลัก ที่สารนี้อยู่ในผลิตภัณฑ์แป้งเด็กโรยตัวยอดนิยม แป้งเด็กจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และแป้งเย็น ชาวเวอร์ ทู ชาวเวอร์ (Shower to Shower Powder) ซึ่งทางริสเตซูนด์ยืนยันว่าเธอได้ใช้แป้งเหล่านี้เพื่อสุขอนามัยสตรีมานานหลายสิบปี
จากการแถลงของ เจอรี บิสเลย์ (Jere Beasley) ทนายความของริสเตซูนด์ พบว่า ลูกความของเขาได้เข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ และพบว่า เธอได้ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งรังไข่ และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดด้วยวิธีตัดมดลูกทิ้ง ซึ่งในขณะนี้โรงมะเร็งของเธอไม่ปรากฏอาการ
และบิสเลย์ยังแถลงต่อว่า ริสเตซูนด์รู้สึกยินดีต่อผลคำตัดสินที่ออกมา ซึ่งเชื่อว่าคำพิพากษาของคณะลูกขุนในครั้งนี้จะเป็นการทำให้คดีสิ้นสุด และบังคับให้ทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต้องรับผิดชอบต่อคดีที่มีคำฟ้องคล้ายกันในส่วนที่เหลือ
มีรายงานว่า หุ้นของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ตกลงทันที 18 เซ็นต์ หลังจากปิดทำการซื้อขายที่ 112.57 ดอลลาร์
NBC NEWS รายงานเพิ่มเติมต่อว่า คำตัดสินในวันจันทร์ (2 พ.ค.) มีขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ในศาลรัฐมิสซูรีแห่งนี้ คณะลูกขุนได้ออกคำตัดสินให้โจทก์ครอบครัวผู้เสียหายยื่นฟ้องบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ชนะและได้รับค่าเสียหายจำนวน 72 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งครอบครัวโจทก์มีผู้เสียหายเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์แป้งของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังจากใช้แป้งที่มีสารทาล์กสำหรับสุขอนามัยสตรีเป็นเวลานานหลายปี
NBC NEWS รายงานว่า คดีแป้งเด็กจอห์นสันนั้นเกิดขึ้นจำนวนมากในศาลรัฐมิสซูรี และรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งบรรดาผู้บริโภคที่ตกเป็นเหยื่อได้กล่าวหาว่า ทางจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นั้นไม่ประกาศออกคำเตือนถึงความเสี่ยงในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารทาลค์ซึ่งมีความเสี่ยงก่อให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้ แต่ทางบริษัทผลิตแป้งเด็กสัญชาติสหรัฐฯ โต้ว่าทางบริษัทได้พัฒนาและทำการตลาดอย่างเหมาะสมแล้ว