ทัพซีเรียถล่มอะเลปโปต่อเนื่อง ยูเอ็นวอนฟื้นเจรจาสันติภาพ

รอยเตอร์ – รัฐบาลซีเรียบอมบ์ที่มั่นกบฏในเมืองอะเลปโปเกือบ 30 ระลอกเมื่อวันเสาร์ (30 เม.ย.) ซึ่งถือเป็นการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงต่อเมืองนี้เป็นวันที่ 9 ขณะที่มาตรการสงบศึกชั่วคราวของกองทัพมีผลรอบกรุงดามัสกัสและทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเท่านั้น ด้านอเมริกาย้ำต้องการให้รัสเซียกดดันให้อัสซาดหยุดถล่มอะเลปโป ขณะที่ยูเอ็นเรียกร้องให้ทั้งมอสโกและวอชิงตันช่วยกันฟื้นการเจรจาสันติภาพซีเรีย

อะเลปโป กลายเป็นพื้นที่รองรับความล้มเหลวของข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดทำให้มีผู้เสียชีวิตในเมืองนี้ที่ตั้งอยู่ทางเหนือของซีเรียเกือบ 250 คนนับจากวันที่ 22 เมษายน และยังทำให้การเจรจาสันติภาพในเจนีวาล่ม โดยกลุ่มหลักที่ต่อต้านรัฐบาลถอนตัวจากการประชุมตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 เม.ย.) กองทัพซีเรียประกาศยุติการสู้รบเพื่อกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิง โดยไม่ให้รายละเอียดว่า การประกาศนี้ครอบคลุมมาตรการทางทหารและมาตรการที่ไม่เกี่ยวข้องกับทหารใดบ้าง เพียงแต่บอกว่า จะมีผล 24 ชั่วโมงในดามัสกัสและอีสเทิร์น กูตา และ 72 ชั่วโมงรอบจังหวัดลาตาเกียแถบชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือ

กบฏหลายกลุ่มไม่ยอมรับคำประกาศดังกล่าว โดยกลุ่มญัยช์ อัล-อิสลามที่ควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกของดามัสกัสประกาศว่า กลุ่มกบฏติดอาวุธสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้การโจมตีของรัฐบาล และวิจารณ์อเมริกาที่นิ่งดูดายไม่ขัดขวางการระดมทิ้งระเบิดของรัฐบาลซีเรีย

“ซีเรียน อ็อบเซอร์เวโทรี ฟอร์ ฮิวแมน ไรต์” กลุ่มติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรีย รายงานว่า การประกาศยุติการสู้รบดังกล่าวดูเหมือนมีผลเกือบตลอดวันเสาร์ แต่ยังคงมีการโจมตีจากรัฐบาลซีเรียในเมืองอะเลปโปที่ไม่ครอบคลุมอยู่ในมาตรการนี้ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนในช่วงเช้าวันเสาร์

ขณะที่สำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ของกลุ่มกบฏที่ยิงใส่พื้นที่ยึดครองของรัฐบาลในอะเลปโปอย่างน้อย 1 คน

อะเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ของซีเรียในช่วงก่อนสงคราม ถูกแบ่งแยกและยึดครองมานานหลายปีโดยกลุ่มกบฏและรัฐบาล การควบคุมเมืองนี้อย่างสมบูรณ์ถือเป็นรางวัลใหญ่สำหรับอัสซาด

ทั้งนี้ ในบรรดาผู้เสียชีวิต 250 คนนับจากวันที่ 22 เดือนที่แล้วนั้น 140 คนเป็นเหยื่อการทิ้งระเบิดของกองกำลังของรัฐบาล และ 96 คนเสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ของกลุ่มกบฏ และมีเด็กเสียชีวิต 40 คน

แอนาส อัล แอ็บดิ ประธานของ “ซีเรียน เนชันแนล โคเอลิชัน” หรือฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่มีฐานอยู่ในตุรกี กล่าวหารัฐบาลซีเรียว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกวัน แต่ฝ่ายต่อต้านก็พร้อมฟื้นข้อตกลงหยุดยิงที่มีขอบเขตครอบคลุมมากขึ้น แต่ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้การโจมตี

ด้านอเมริกาเผยว่า กำลังดำเนินการเพื่อลดความรุนแรงในซีเรีย โดยเป้าหมายสำคัญที่สุดคือการยุติการนองเลือดในอะเลปโป

จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวชัดเจนระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับสเตฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนพิเศษด้านกิจการซีเรียของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และริอัด ฮิญาบ หัวหน้าผู้ประสานงานของกลุ่มเอชเอ็นซี ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า อเมริกาต้องการให้รัสเซียกดดันรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดให้ยุติการโจมตีทางอากาศตามอำเภอใจในอะเลปโป

อนึ่ง วันอาทิตย์และจันทร์ (1-2) เคร์รีมีกำหนดไปเจนีวา เพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดนและซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งกับเดอ มิสตูรา เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย

ทางฝ่ายยูเอ็นนั้นเรียกร้องให้มอสโกและวอชิงตันช่วยฟื้นข้อตกลงหยุดยิง ป้องกันไม่ให้การเจรจาสันติภาพล่มสลายโดยสิ้นเชิง เพื่อยุติความขัดแย้งที่ดำเนินมากว่า 5 ปีและทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 250,000 คน และมีผู้ไร้บ้านอีกนับล้าน

ขณะเดียวกัน หน่วยงานบรรเทาทุกข์ที่ยังคงพยายามนำความช่วยเหลือไปแจกจ่ายชาวซีเรียทางตะวันตกของประเทศ เผยว่ายังมีปัญหาในการเข้าถึงบางพื้นที่ และยังไม่สามารถเข้าถึงประชาชนจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือได้